นักเศรษฐศาสตร์ชี้ "มาตรการลดหย่อนภาษีจากการซื้อสินค้า" กระทบผู้ประกอบการรายย่อย

เศรษฐกิจ
27 ธ.ค. 58
20:37
169
Logo Thai PBS
นักเศรษฐศาสตร์ชี้ "มาตรการลดหย่อนภาษีจากการซื้อสินค้า" กระทบผู้ประกอบการรายย่อย
นักวิชาการด้านเศรษฐศาสตร์มองว่าแม้มาตรการลดหย่อนภาษีจากการซื้อสินค้าและบริการช่วงปีใหม่จะกระตุ้นให้เกิดการซื้อสินค้า แต่ก็อาจทำให้พฤติกรรมการซื้อเบี่ยงเบน จนอาจทำให้ผู้ประกอบการรายย่อยที่ไม่อยู่ในระบบภาษีมูลค่าเพิ่มเสียประโยชน์

ผู้ประกอบการค้าขายสินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์หรือที่รู้จักกันว่า "สินค้าโอทอป" ที่่มาเปิดร้านจำหน่ายในงานแสดงสินค้าที่เมืองทองธานีวันนี้ (27 ธ.ค.2558) ระบุว่าพวกเขายังไม่ได้รับประโยชน์จากนโยบายนี้เพราะเตรียมตัวไม่ทัน แม้ว่าจะมีผู้สนใจและมีคำสั่งซื้อจำนวนมาก แต่ไม่สามารถออกใบรับรองใบกำกับภาษีอย่างเต็มรูปแบบ เพื่อให้ผู้ซื้อนำไปลดหย่อนภาษีได้ เนื่องจากกลุ่มผู้ประกอบการสินค้าชุมชนและสินค้าโอทอปส่วนใหญ่ยังไม่เคยขึ้นทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม จึงเตรียมตัวไม่ทัน

มาตรการลดหย่อนภาษีจากการใช้จ่ายสินค้าและบริการนี้เปิดโอกาสให้ประชาชนที่ซื้อสินค้าและบริการนำใบกำกับภาษีไปขอลดหย่อนได้ตามจำนวนที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 15,000 บาท

นายดิเรก สร้อยสีดา ผู้ประกอบการ จ.เชียงใหม่ กล่าวว่า ผู้ประกอบการโอทอปเตรียมตัวไม่ทันสำหรับมาตรการนี้ เขาเห็นด้วยกับมาตรการลดหย่อนภาษีของรัฐบาลเพียงแต่ว่าเตรียมตัวไม่พร้อม ทำให้ประชาชนที่มาเดินซื้อของงานไม่ได้รับการลดหย่อนภาษี

ผู้สื่อข่าวสอบถามความคิดเห็นของประชาชนที่มาเดินซื้อของในงานโอทอป ส่วนใหญ่สนับสนุนมาตรการนี้เพราะเป็นการช่วยลดหย่อนภาษีสำหรับเหลือมนุษย์เงินเดือน แต่บางคนก็มองว่าอาจช่วยได้มากกว่าหากรัฐบาลลดภาษีให้โดยตรง

"คิดว่ามาตรการนี้่ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้ ผมคิดว่ามาตรการนี้เห็นผลช้าไป เพราะเราซื้อวันนี้ต้องรอถึงปีหน้าถึงจะได้ลดหย่อนภาษี ถ้าจะกระตุ้นเศรษฐกิจตอนนี้ก็ควรจะลดภาษีไปเลย เช่น ยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม 7 เปอร์เซ็นต์ตั้งแต่วันนี้ไปเลย กำหนดไปเลยว่ากี่เดือน" อดุลย์ ดุษฎีเดโช ผู้บริโภคกล่าว

นายธนาวิทย์ อุทัยวัฒน์ ประชาชนที่มาจับจ่ายสินค้าเห็นด้วยกับมาตรการนี้เช่นกัน เพราะคิดว่าจะช่วยมนุษย์เงินเดือนที่ไม่ได้สิทธิลดหย่อนภาษีเหมือนนิติบุคคล อีกทั้งยังเป็นการกระจายรายได้ และเป็นการจูงใจให้คนเข้ามาอยู่ในระบบภาษีรวมทั้ง อาจกระตุ้นให้จับจ่ายสินค้าฟุ่มเฟือย แทนที่จะเป็นสินค้าของใช้ในชีวิตประจำวัน

"ผู้ที่ไม่อยู่ในระบบภาษีมูลค่าเพิ่มก็จะไม่ได้รับประโยชน์ไปด้วยเพราะว่าไม่สามารถออกใบกำกับภาษีเต็มรูปแบบให้ผู้บริโภคที่จะไปขอลดหย่อนภาษีได้ เพราะฉะนั้นสิ่งที่เกิดขึ้นก็คือ ด้านหนึ่งเกิดเป็นกำลังซื้อมากขึ้น แต่ขณะเดียวกันก็เกิดการเบี่ยงเบนการซื้อจากเดิม เราอาจจะคิดว่าเราซื้ออาหารของฝากจากร้านทั่วไป แต่ตอนนี้อาจจะเลือกไปซื้อจากร้านที่มีใบกำกับภาษี หรือซื้อสินค้าที่มีใบกำกับภาษี

สำหรับมาตรการลดหย่อนภาษีนี้จะต้องเป็น ผู้มีเงินได้บุคคลธรรมดา ที่ซื้อสินค้าหรือบริการ ตั้งแต่วันนี้ ถึง 31 ธ.ค.2558 โดยนำใบเสร็จที่เป็นใบกำกับภาษีเต็มรูปแบบจากผู้ขาย หรือ สถานบริการ ที่ขึ้นทะเบียนเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม มาลดหย่อนเท่าน้ัน

ขณะที่กระทรวงการคลังคาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า มาตรการนี้จะส่งผลให้กระตุ้นการบริโภคภายในประเทศมากขึ้น มีเงินสะพัดในระบบถึง 1.4-1.5 แสนล้านบาท และจีดีพีจะเพิ่มขึ้นอีกร้อยละ 0.1-0.2

ข่าวที่เกี่ยวข้อง