ตร.เล็งนำผู้ต้องหาทำแท้งเถื่อนฝากขังศาลพรุ่งนี้
ตำรวจเตรียมนำผู้ต้องหาเปิดสถานรับทำแท้งเถื่อนไปฝากขังที่ศาลจังหวัดตลิ่งชันในวันพรุ่งนี้ ขณะที่หนึ่งในผู้ดูแลสุสานวัดไผ่เงินโชตนารามรับสารภาพว่าได้รับศพทารกมาทำลายจริง
ตำรวจสืบสวน สน.วัดพระยาไกร ได้นำนายสุเทพ ชะบางบอน และนายสุชาติ ภูมี ผู้ดูแลสุสานวัดไผ่เงินโชตนาราม มาสอบปากคำ หลังเมื่อวานนี้ (17 พ.ย.) ตำรวจสามารถบุกจับน.ส.ลัญฉกร จันทมนัส ได้ที่อาคารพาณิชย์ซึ่งถูกแปลงสภาพเป็นสถานรับทำแท้งเถื่อน โดยเบื้องต้น นายสุชาติรับสารภาพว่าได้รับศพทารกมาจากน.ส.ลัญฉกรตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา โดยได้ค่าจ้างในการทำลายศพละ 200 บาท ขณะที่นายสุเทพยังคงให้การปฏิเสธ โดยอ้างว่าไม่มีส่วนรู้เห็นในเรื่องนี้ เนื่องจากบริเวณดังกล่าวนายสุชาติเป็นผู้ดูแล
ส่วนน.ส.ลัญฉกร ตำรวจ สน.หนองแขม ได้เบิกตัวออกจากห้องควบคุมเพื่อมาสอบปากคำเพิ่มเติม หลังน.ส.ลัญฉกรรับสารภาพว่าได้รับศพทารกมาจากคลินิกหลายแห่งทั้งในย่านรังสิต มีนบุรี จตุจักร หรือเอกมัย เพื่อนำมาส่งให้นายสุชาติไปทำลายที่วัดดังกล่าว และในวันพรุ่งนี้ (19 พ.ย.) ตำรวจจะนำน.ส.ลัญฉกรไปฝากขังที่ศาลจังหวัดตลิ่งชัน
ก่อนหน้านี้ น.ส.ลัญฉกรรับสารภาพว่า เคยทำงานคลินิกที่เปิดบริการรับทำแท้งเถื่อนมานานถึง 10 ปี ก่อนที่คลินิกแห่งนั้นจะปิดตัวลง ส่วนสาเหตุที่ตัวเองต้องผันมาเปิดสถานรับทำแท้งเอง น.ส.ลัญฉกรอ้างว่า มีเด็กจำนวน 8 คนที่เกิดจากการทำแท้งไม่สำเร็จ ทำให้เธอต้องรับผิดชอบ และส่วนใหญ่หญิงสาวที่มาใช้บริการมีตั้งแต่อายุประมาณ 13-14 ปี ไปจนถึงอายุ 38 ปี โดยอายุครรภ์ที่รับทำแท้งมีตั้งแต่ 1 เดือนจนถึง 9 เดือน และคิดราคาตั้งแต่หลักพันไปจนถึงหลักหมื่นบาท
ขณะนี้ศพทารกทั้งหมดกว่า 300 ศพได้ส่งให้แพทย์นิติเวช โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ตรวจชันสูตร โดยคาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 1 สัปดาห์ จึงจะส่งผลมาให้ตำรวจ สน.วัดพระยาไกร โดยการตรวจชันสูตรศพแพทย์จะทำการตรวจสอบอายุของทารก รวมถึงสาเหตุการเสียชีวิตนั้นเกิดขึ้นภายในครรภ์ หรือถูกทำให้เสียชีวิตหลังจากทำแท้งออกมา และระยะเวลาการเสียชีวิต