ป.ป.ช.-คตส.เร่งผลักดันร่าง กม.คดีการเมืองไม่มีอายุความ
คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ และอดีตคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ เห็นควรเร่งผลักดันร่างกฎหมาย เพื่อให้คดีทางการเมืองไม่มีอายุความ หลังศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองพิพากษา ยกฟ้องคดีอดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ปฏิบัติหน้าที่มิชอบ กรณีกรรมสิทธิ์ที่ดินอัลไพน์ ด้วยเหตุสิ้นสุดอายุความจากกรณีที่ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายเสนาะ เทียนทอง อดีตรัฐมนตรีช่ายว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นจำเลยในฐานความผิด กรณีเจ้าพนักงานของรัฐใช้อำนาจหน้าที่ในตำแหน่งโดยมิชอบ ข่มขืนใจและจูงใจให้บุคคลมอบให้ด้วยทรัพย์สิน หรือประโยชน์ ซึ่งว่าด้วยซื้อขายที่ดินสนามกอล์ฟอัลไพน์ จังหวัดปทุมธานี
ผลจากการพิเคราะห์ ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พิพากษายกฟ้อง โดยอ้างอิงถึงความเห็นของ องค์คณะผู้พิพากษา ซึ่งได้ประชุมและลงความเห็นว่า ตามประมวลกฎหมายอาญา 95 (1) ระบุว่า คดีนี้มีอายุความ 20 ปี ดังนั้นเมื่อนำตัวเลขกรอบเวลามาเทียบเคียง ตามคำร้องขอของจำเลย จึงพบว่าการกระทำที่เกิดขึ้นตามคำฟ้องเมื่อปี 2533 ได้สิ้นสุดอายุความไปเมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2553 ซึ่งแม้ว่า การพิจารณานัดแรก ในวันนี้ จะมีนายเสนาะ เทียนทอง มาแสดงตัวต่อศาล แต่ก็ไม่เป็นผล องค์คณะผู้พิพากษาเสียงข้างมา จึงพิเคราะห์ว่า คดีสิ้นสุดอายุความแล้ว
ผลแห่งคดีทางการเมืองที่หลุดพ้นความผิดครั้งนี้ นายสัก กอแสงเรือง อดีตคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ หรือ คตส.เห็นว่า คดีฟ้องนายเสนาะคดีนี้เป็นบทสะท้อนให้เห็นได้ถึงช่องว่างของคดีทางการเมือง ที่ถูกดึงยื้อ และเป็นประเด็นต่อรอง หรือโจมตีทางการเมืองมาอย่างยาวนาน จนสิ้นอายุความ ซึ่งน่าจะถึงเวลาแล้วที่จะต้องทบทวนหลักการและเหตุผล เพื่อเสนอร่างกฎหมายให้คดีทางการเมืองไม่มีอายุความ เพื่อประโยชน์ของสาธารณะและแผ่นดิน
ขณะที่นายภักดี โพธิศิริ กรรมการป.ป.ช. ระบุว่ากระทรวงยุติธรรมกำลังขับเคลื่อนยกร่างตามอนุสัญญา สหประชาชาติว่าด้วยการต่อต้านการทุจริต เพื่อให้คดีทางการเมืองไม่มีอายุความ และไม่ต้องแสดงตนต่อศาล
เดิมคดีนี้ ป.ป.ช. ยื่นฟ้อง 7 คน โดย นายเสนาะ, นายจรูญ ดวงจิโน อดีตเจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดปทุมธานี สาขาธัญบุรีและนายบุญธรรม กลับน่วม อดีตเจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดปทุมธานี สาขาธัญบุรี ต่างได้ประโยชน์ในฐานะจำเลยจากคดีหมดอายุความ
ส่วนนายอุดม วัฒนะคีรี อดีตรองอธิบดีกรมที่ดิน ได้ถึงแก่กรรมไปแล้ว ขณะที่นายอารีย์ วงศ์อารยะ อดีตรองปลัดกระทรวงมหาดไทย จากผลการไต่สวนของป.ป.ช.ไม่พบความเกี่ยวข้อง แต่นายประวิทย์ สีห์โสภณ อดีตอธิบดีกรมที่ดิน และนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ์ อดีตรองปลัดกระทรวงมหาดไทย ถูกแยกสำนวนออกไป เพราะว่าเป็นการกระทำที่เกิดขึ้นภายหลัง
คดีนี้ เกิดจาก เหตุที่ นางเนื่อม ชำนาญชาติศักดา ได้ทำพินัยกรรมยกที่ดินกว่า 730 ไร่ ในจังหวัดปทุมธานี ให้แก่วัดธรรมิการามวรวิหาร เมื่อนางเนื่อมเสียชีวิต ที่ดินที่ถือครองโดยเอกชน หรือ สนามกอล์ฟอัลไพน์ เกิดข้อถกเถียงถึงกรรมสิทธิ์ ขณะที่สำนวนฟ้องของ ป.ป.ช. ระบุว่า นายเสนาะ ใช้อำนาจใน ฐานะรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ในวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2533 สั่งการให้วัดธรรมิการามวรวิหารโอนที่ดินให้กับมูลนิธิมหามกุฏราชวิทยาลัย ซึ่งไม่ตรงตามเจตนารมณ์ของนางเนื่อม