สถานการณ์รุนแรงในเมืองอเลปโป้ของซีเรียมีแนวโน้มขยายวงมากขึ้น
ซากความเสียหายจากการสู้รบระหว่างกองทัพรัฐบาลซีเรียกับกองกำลังปลดปล่อยซีเรีย กลุ่มกบฏติดอาวุธที่ยังสามารถต้านทานการโจมตีของรัฐบาล และยึดครองเมืองอเลปโป้ เมืองเศรษฐกิจที่ใหญ่เป็นอันดับ 1 ของประเทศไว้ได้ แม้เมื่อวานนี้กองทัพจะพยายามโจมตีอย่างหนักเพื่อยึดเมืองยุทธศาสตร์แห่งนี้คืน
ขณะที่วันนี้ สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า การต่อสู้อย่างดุเดือดที่เมืองอเลปโป้เริ่มต้นขึ้นต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 โดยทหารของกองทัพซีเรีย เปิดฉากการโจมตีภาคพื้นดินเช่นเดียวกับเมื่อวานนี้ โดยได้รับการสนับสนุนจากรถถัง และการโจมตีทางอากาศโดยเฮลิคอปเตอร์ ขณะที่ชาวเมืองอเลปโป้ ต่างหนีภัยลงไปยังชั้นใต้ดินของอาคารต่างๆ
ความรุนแรงที่เกิดขึ้น สร้างความหวาดวิตกว่าจะเกิดเหตุสังหารหมู่ที่อเลปโป้ ขณะที่นายโคฟี่ อันนัน ทูตพิเศษของสหประชาชาติและสันนิบาตอาหรับ ว่าด้วยเรื่องซีเรีย แสดงความกังวลว่าการต่อสู้อย่างรุนแรงจะเกิดขึ้นที่เมืองใหญ่ที่สุดของซีเรียแห่งนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ พร้อมทั้งเรียกร้องให้นานาชาติร่วมมือร่วมใจกันโน้มน้าวทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องหันมาใช้การเมืองแก้ไขปัญหา เพื่อนำสันติภาพกลับคืนสู่ชาวซีเรีย
แต่ดูเหมือนว่าเสียงของนายอันนันอาจส่งไปไม่ถึงฝ่ายที่เกี่ยวข้อง เพราะล่าสุดประธานสภาแห่งชาติซีเรีย ซึ่งเป็นกลุ่มต่อต้านรัฐบาลประธานาธิบดีบาชาร์ อัล อัดซ้าด ออกมาร้องขอให้รัฐบาลชาติอาหรับ ส่งอาวุธหนักที่สามารถใช้ต่อต้านรถถัง และเครื่องบินเจ็ทให้กับกลุ่มกบฏ
ขณะที่รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซียยังคงยืนยันจุดยืนหนุนหลังรัฐบาลซีเรีย และมองว่ากองทัพมีสิทธิโจมตี หากกลุ่มกบฏบุกยึดเมืองสำคัญ พร้อมตำหนิชาติตะวันตกบางชาติ และชาติเพื่อนบ้านของซีเรียที่ลักลอบส่งอาวุธให้กลุ่มกบฏว่าจะยิ่งทำให้เกิดการนองเลือดมากขึ้น
วันนี้มีรายงานว่ารัฐมนตรีต่างประเทศของซีเรีย เดินทางเข้าหารือกับรัฐมนตรีต่างประเทศอิหร่าน โดยจะมีการหารือเกี่ยวกับสถานการณ์ในซีเรีย นักเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิมนุษยชนประเมินว่านับตั้งแต่มีการประท้วงขับไล่ประธานาธิบดีอัดซ้าดเมื่อเดือนมีนาคม 2554 จนถึงตอนนี้ มีชาวซีเรียเสียชีวิตไปแล้วไม่น้อยกว่า 20,000 คน