ชาวบ้าน จ.พระนครศรีอยุธยาเรียกร้องแก้ปัญหาฝุ่นถ่านหินยืดเยื้อกว่า 7 ปี

ชาวบ้าน 3 ตำบล ใน อ.นครหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา เรียกร้องรัฐบาลให้ตรวจสอบและแก้ปัญหาผลกระทบฝุ่นถ่านหินจากรถบรรทุกและโรงงานถ่านหินหลายแห่งในพื้นที่ทำให้ชาวบ้านมีอาการเจ็บป่วย ที่ผ่านมาในรอบ 7 ปี ชาวบ้านร้องเรียนมาแล้วเกือบ 20 ครั้ง แต่ไม่ได้รับการแก้ปัญหา

ตลอดระยะทางหลายกิโลเมตรของถนนใน ต.บ่อโพง คลองสะแก และต.ปากจั่น อ.นครหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา เต็มไปด้วยฝุ่นจากรถบรรทุกถ่านหินที่เข้า-ออก โรงงานวันละหลายร้อยเที่ยว จนชาวบ้านหลายคนรวมทั้งเด็กและผู้สูงอายุ มีอาการผื่นคันขึ้นตามนิ้วมือ นิ้วเท้า และลำตัว

ชาวบ้าน เชื่อว่า สาเหตุเกิดจากฝุ่นที่ฟุ้งกระจายมาจากรถบรรทุกถ่านหิน และถ่านหินที่ตกบริเวณถนน จนหลายคนมีอาการเจ็บป่วย ก่อนหน้านี้เคยมีเจ้าหน้าที่จากกรมควบคุมมลพิษ นำเครื่องตรวจสภาพฝุ่นละอองไปวัดคุณภาพอากาศ แต่ไม่มีการแจ้งชาวบ้านให้ทราบถึงผลการตรวจ ทำให้ชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบรวมตัวไปร้องเรียนกับทางจังหวัดให้แก้ปัญหา แต่ไม่มีความคืบหน้าเช่นกัน

ชาวบ้านยังได้ร้องเรียนปัญหาเรือบรรทุกถ่านหินขนาดใหญ่แล่นกีดขวางทางน้ำ ซึ่ง น.ท.รัชตะ ผกาฟุ้ง ผอ.สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขา จ.พระนครศรีอยุธยา ระบุว่า กำลังอยู่ระหว่างการแก้ไขและจะเรียกตัวแทนของโรงงานและผู้ได้รับผลกระทบหารือกับผู้ว่าราชการจังหวัดอีกครั้งเพื่อหาทางแก้ไขปัญหา

ขณะที่นายวิทยา ผิวผ่อง ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เคยเรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อแก้ปัญหา แต่ไม่มีความคืบหน้า จนกระทั่งชาวบ้านออกมาร้องเรียนอีกครั้ง ซึ่งครั้งนี้เป็นการร้องเรียนครั้งที่ 19 ในรอบ 7 ปี แต่ปัญหายังไม่ได้รับการแก้ไข

ทั้งนี้พื้นที่ ต.บ่อโพง คลองสะแก และต.ปากจั่น อ.นครหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา เป็นพื้นที่ ที่อยู่ใกล้แม่น้ำป่าสัก เต็มไปด้วยโรงงานถ่านหิน และถ่านหินที่ถูกนำไปกองไว้ตามทุ่งนาจำนวนมาก รวมทั้งปัญหาเรือบรรทุกถ่านหินขนาดใหญ่หลายลำ ที่เดินเรือกีดขวางทางเรือในแม่น้ำป่าสัก