คปก.เสนอประธานสภา-วิปรัฐบาลฝ่ายค้านยกเลิกผู้ริเริ่มเสนอกม.-ประชาชนมีสิทธิเสนอ กกต.

การเมือง
21 ส.ค. 55
13:37
14
Logo Thai PBS
คปก.เสนอประธานสภา-วิปรัฐบาลฝ่ายค้านยกเลิกผู้ริเริ่มเสนอกม.-ประชาชนมีสิทธิเสนอ กกต.

เตรียมกำหนดโทษทางอาญาสำหรับผู้กระทำผิดเกี่ยวกับการเข้าชื่อเสนอกฎหมาย

 นายคณิต ณ นคร ประธานคณะกรรมการปฏิรูปกฎหมาย (คปก.) ได้ลงนามในหนังสือบันทึกความเห็นและข้อเสนอแนะคณะกรรมการปฏิรูปกฎหมายเรื่อง ร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยการเข้าชื่อเสนอกฎหมาย พ.ศ.....เสนอต่อนายกรัฐมนตรี  ประธานสภาผู้แทนราษฎร ประธานวุฒิสภา ประธานวิปรัฐบาล และประธานวิปฝ่ายค้าน เพื่อนำความเห็นและข้อเสนอแนะดังกล่าวประกอบการพิจารณาในวาระสองและวาระสามของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และประกอบการพิจารณารับหลักการร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยการเข้าชื่อเสนอกฎหมาย พ.ศ.... รวมทั้งการพิจารณาของคณะกรรมาธิการวิสามัญของวุฒิสภา ซึ่งจะมีการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรในวันที่ 22 สิงหาคมนี้

 
คณะกรรมการปฏิรูปกฎหมายจึงมีความเห็นที่สำคัญหลายประเด็นคือ ไม่ควรกำหนดให้มีผู้ริเริ่มจำนวน 20 คน เป็นผู้ริเริ่มเสนอกฎหมาย เพื่อเสนอให้ประธานรัฐสภาตรวจสอบร่างพระราชบัญญัติว่ามีหลักการเกี่ยวกับสิทธิและเสรีภาพของประชาชนหรือแนวนโยบายพื้นฐานแห่งรัฐตามที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ  เนื่องจากตามมาตรา 6กำหนดให้มีผู้ริเริ่มจำนวน20 คน ทำหน้าที่ในการพัฒนาร่างพระราชบัญญัติจนเป็นร่างกฎหมายที่สมบูรณ์แล้ว หรือหากจะแก้ไขร่างกฎหมายที่เสนอต้องดำเนินการก่อนการเข้าชื่อเสนอกฎหมายเท่านั้น

ดังนั้นกระบวนการและขั้นตอนดังกล่าวจึงเป็นการตัดตอนและลดทอนกระบวนการมีส่วนร่วมของประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งซึ่งร่วมลงชื่อเสนอร่างพระราชบัญญัติรายอื่นๆ ซึ่งควรมีโอกาสเข้าร่วมในการพัฒนากฎหมายตั้งแต่เริ่มต้นอย่างกว้างขวางมากที่สุด

 
ขณะที่ประเด็นการเข้าชื่อเสนอกฎหมายโดยการดำเนินการของคณะกรรมการการเลือกตั้ง คปก.มีความเห็นว่า ประชาชนผู้เข้าชื่อเสนอกฎหมายควรมีสิทธิเสนอให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ดำเนินการจัดให้มีการเข้าชื่อเสนอกฎหมายดังเช่นที่เคยบัญญัติไว้ในพระราชบัญญัติว่าด้วยการเข้าชื่อเสนอกฎหมาย พ.ศ.2542 เนื่องจากร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยการเข้าชื่อเสนอกฎหมาย พ.ศ.... เป็นร่างกฎหมายที่มีเจตนารมณ์ในการส่งเสริมและสนับสนุนการมีส่วนร่วมทางการเมืองของประชาชน ดังนั้นจึงควรเปิดช่องทางและทางเลือกในทุก ช่องทางที่เป็นการอำนวยความสะดวกให้กับประชาชน
 
นอกจากนี้คปก.ยังเห็นว่าในการเข้าชื่อเสนอกฎหมายโดยประชาชนนั้น มีค่าใช้จ่ายในการดำเนินการจำนวนมากทั้งในการรณรงค์ เสริมสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับกฎหมายฉบับนั้น ค่าใช้จ่ายในการจัดทำเอกสารต่างๆ ควรกำหนดให้กองทุนพัฒนาการเมืองภาคพลเมืองซึ่งมีเจตนารมณ์ตามรัฐธรรมนูญเพื่อช่วยเหลือการดำเนินกิจกรรมสาธารณะของชุมชน รวมทั้งสนับสนุนการดำเนินการของกลุ่มประชาชนที่รวมตัวกันในลักษณะเครือข่ายทุกรูปแบบให้สามารถแสดงความคิดเห็นและเสนอความต้องการของชุมชนในพื้นที่ เพื่อเป็นกองทุนสำหรับสนับสนุนการเข้าชื่อเสนอกฎหมายของประชาชนด้วยแม้ว่าการพิจารณาในชั้นกรรมาธิการวิสามัญฯ จะมีความเห็นว่า ไม่จำเป็นต้องกำหนดกองทุนพัฒนาการเมืองภาคพลเมืองสำหรับการดำเนินการเข้าชื่อเสนอกฎหมายก็ตาม
 
นายไพโรจน์ พลเพชร กรรมการปฏิรูปกฎหมาย (คปก.) เปิดเผยว่า ร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยการเข้าชื่อเสนอกฎหมาย พ.ศ... เป็นกฎหมายที่ว่าด้วยการวางหลักเกณฑ์และวิธีการเข้าชื่อของประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งเพื่อเสนอร่างพระราชบัญญัติหรือเสนอญัตติขอแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ ดังนั้นร่างกฎหมายดังกล่าวจึงมีความสำคัญอย่างมากในแง่ของการส่งเสริมและสนับสนุนการมีส่วนร่วมในทางการเมืองโดยตรงของประชาชน โดยที่ผ่านมาประชาชนมีความตื่นตัวต่อร่างกฎหมายดังกล่าวค่อนข้างสูง มีภาคประชาชนได้ร่วมลงชื่อ 10,000 รายชื่อ เพื่อเสนอร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยการเข้าชื่อเสนอกฎหมายฉบับประชาชน จำนวน 2ฉบับ
 
“ภายหลังจากการพิจารณาในชั้นกรรมาธิการวิสามัญ  กลับไม่ได้นำสาระสำคัญในร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยการเข้าชื่อเสนอกฎหมายฉบับที่ภาคประชาชนเสนอบรรจุไว้ในร่างกฎหมายที่ผ่านการพิจารณา ทั้งยังมีบทบัญญัติบางมาตราอาจเป็นอุปสรรคและไม่เอื้อต่อการส่งเสริมและสนับสนุนการเข้าชื่อเสนอกฎหมายโดยประชาชน เช่น  ประเด็นการกำหนดให้มีผู้ริเริ่มในการเสนอกฎหมายจำนวน 20 คน การตัดบทบาทของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กองทุนพัฒนาการเมืองภาคพลเมืองออกจากการเป็นองค์กรสนับสนุนการเข้าชื่อเสนอกฎหมาย 
 
นอกจากนี้ยังกำหนดโทษทางอาญาสำหรับผู้กระทำผิดเกี่ยวกับการเข้าชื่อเสนอกฎหมาย ซึ่งคณะกรรมการปฏิรูปกฎหมายมีความเห็นว่า เนื่องจากร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวมุ่งส่งเสริมและสนับสนุนการมีส่วนร่วมทางการเมืองของประชาชน การกำหนดโทษทางอาญาไว้ในร่างกฎหมายฉบับนี้อาจทำให้เกิดความไม่มั่นใจในการใช้สิทธิเสนอกฎหมายของประชาชน” นายไพโรจน์ กล่าว


ข่าวที่เกี่ยวข้อง