ผู้ถูกกล่าวหาคนสุดท้ายในคดีฆ่าเชอรี่แอน เสียชีวิตแล้ว

อาชญากรรม
20 ต.ค. 55
14:36
872
Logo Thai PBS
ผู้ถูกกล่าวหาคนสุดท้ายในคดีฆ่าเชอรี่แอน เสียชีวิตแล้ว

ผู้ที่ถูกกล่าวหาในคดีฆาตกรรม น.ส.เชอรี่แอน ดันแคน เสียชีวิตแล้วเมื่อวันที่ 12 ตุลาคมที่ผ่านมา และถือเป็นผู้ถูกกล่าวหาคนสุดท้ายในคดีนี้ที่เสียชีวิตลง คดีนี้ถือเป็นคดีตัวอย่างที่ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ต่อตำรวจทำให้หลายหน่วยงานมีกระบวนการตรวจสอบเพื่อป้องกันไม่ให้มี การจับผู้ต้องหาผิดตัว

กระดูกของนายกระแสร์ พลอยกลุ่ม ซึ่งเคยตกเป็นผู้ต้องหาที่ถูกจับผิดตัว หรือ แพะ ในคดีฆาตกรรม น.ส.เชอร์รี่แอน ดันแคน ได้ถูกฝังลงที่ใต้ต้นโพธิ์ ภายในวัดบำเพ็ญเหนือ เขตมีนบุรี หลังเขาได้เสียชีวิตลงด้วยภาวะหัวใจล้มเหลว เมื่อวันที่ 12 ตุลาคมที่ผ่านมา นายกระแสร์ ถือเป็นผู้ต้องหาคนสุดท้ายในคดีนี้ที่ยังมีชีวิตอยู่ หลังเพื่อนที่ถูกจับพร้อมกับเขาอีก 3 คน เสียชีวิตไปก่อนหน้านี้แล้ว

ผู้ต้องหาที่ถูกกล่าวหา และถูกจับผิดตัว รวม 5 คน คือ นายกระแสร์ พลอยกลุ่ม / นายรุ่งเฉลิม กนลชวาลชัย, นายพิทักษ์ ค้าขาย, นายธวัชชัย กิจประยูร ซึ่งเป็นคนสนิท และลูกน้องของนายวินัย ชัยพานิช ที่เป็นคนส่งเสียเลี้ยงดู น.ส.เชอรี่แอน ถูกตำรวจภูธรอำเภอเมืองสมุทรปราการ ควบคุมตัว และนำมาแถลงข่าว เมื่อ วันที่ 21 สิงหาคม 2529 โดยคดีนี้ตำรวจใช้เวลาเพียง 27 วันในการสืบสวน และจับผู้ถูกกล่าวหา ซึ่งพนักงานสอบสวนในขณะนั้นระบุว่า มีประจักษ์พยาน ที่เห็นเหตุการณ์ คือ นายประเมิน โภชน์พัฒน์ คนขับรถสามล้อ และได้มาชี้ตัวว่าเห็นผู้ถูกกล่าวหา 4 คน ได้เข้าประคองตัว น.ส.เชอร์รี่ ขึ้นแท็กซี่ จากหน้าโรงเรียนพระกุมารเยซูวิทยาในช่วงวันเกิดเหตุ

ต่อมาผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 4 คนถูกศาลชั้นต้นประหารชีวิตทั้งหมดส่วนนายวินัย อัยการมีคำสั่งไม่ฟ้อง และได้รับการปล่อยตัวเมื่อปี 2529 ต่อมาศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษากลับยกฟ้องทั้งหมดแต่ระหว่างยื่นฎีกาขอให้มีการควบคุมตัวไว้ก่อน ในที่สุดศาลฎีกาพิพากษายกฟ้องทั้งหมด ทำให้ทุกคนได้รับการปล่อยตัว แต่ปรากฎว่า นายรุ่งเฉลิม หรือเฮาดี้ เสียชีวิตภายในเรือนจำระหว่างรอคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ซึ่งในระหว่างนั้นเขาได้เขียนกลอน แพะรับบาป และส่งจดหมายไปให้ลูกสาวเพื่อยืนย้นว่า เขาไม่ได้กระทำผิด และตกเป็นจำเลยทั้งๆที่ เป็นผู้บริสุทธิ์

ส่วนนายพิทักษ์ ได้เสียชีวิตเมื่อปลายปี 2536 หลังออกมาจากเรือนจำเพียง 5 เดือน ขณะที่นายธวัชเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็ง หลังนายพิทักษ์เสียชีวิตได้ไม่นาน

และแม้ว่า นายกระแสร์ จะได้รับเงินชดเชยจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหลังชนะคดี แต่ไม่อาจชดเชยกับชีวิตครอบครัวที่ล้มเหลวระหว่างเขาถูกคุมขัง เมื่อบุตรสาวถูกฆาตกรรม บุตรชายหายสาบสูญ และภรรยาได้เสียชีวิตเนื่องจากตรอมใจ โดยภายหลังนายกระแสร์ ได้เริ่มต้นชีวิตครอบครัวกับภรรยาใหม่ และเสียชีวิตอย่างสงบ

คดีนี้เป็นคดีที่ถูกวิพากวิจารณ์ถึงการทำงานของตำรวจไทย และกลายเป็นคดีตัวอย่างที่ทำให้ไทยเริ่มมีแนวคิดในการร่างกฎหมายเพื่อชดเชยกับจำเลยที่กลายเป็นผู้เสียหายในคดีอาญา ตามพระราชบัญญัติค่าตอบแทนผู้เสียหายและค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา พุทธศักราช 2544 รวมถึงมีหน่วยงานหลายหน่วยงานเข้าร่วมตรวจสอบการทำงานของตำรวจ เพื่อความถูกต้องและเป็นธรรม


ข่าวที่เกี่ยวข้อง