สันดอนทรายระยะทางยาวหลายกิโลเมตร เกิดขึ้นกลางแม่น้ำเจ้าพระยา โดยเฉพาะบริเวณสะพานวัดไชโยวรวิหาร อ.ไชโย จ.อ่างทอง หลังระดับน้ำลดระดับลงต่อเนื่อง เป็นผลมาจากเขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท ลดการระบายน้ำ เพื่อเก็บกักน้ำไว้ใช้ในหน้าแล้ง
ขณะที่ระดับน้ำเจ้าพระยาบริเวณหน้าศาลากลางจ.อ่างทอง ลดลงเหลือเพียง 80 เซนติเมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง ทำให้ในหลายพื้นที่ของจ.อ่างทอง ประสบกับปัญหาภัยแล้ง โดยเฉพาะพื้นที่ปลายน้ำไม่สามารถจะสูบน้ำทำการเกษตรได้ จึงประกาศเตือนชาวนาให้ลดการปลูกข้าวนาปรัง เพราะอาจได้รับผลกระทบหากน้ำไม่เพียงพอ
สถานการณ์ภัยแล้งในภาคตะวันออกเฉียงเหนือยังขยายวงกว้าง โดยเฉพาะจ.ศรีสะเกษ มีพื้นที่ประสบภัยแล้งแล้ว 19 อำเภอ โดยเฉพาะอ.กันทรารมย์ เกษตรกรขาดแคลนน้ำ ทำให้ผลผลิตพริกและข้าวโพดได้รับความเสียหาย ขณะที่บางจังหวัด ได้รับผลกระทบจากอิทธิพลของพายุที่พัดเข้าประเทศไทย ทำให้เกิดฝนตกในพื้นที่จ.บุรีรัมย์ และจ.นครราชสีมา ทำให้ชาวนาต้องชะลอการเก็บเกี่ยวข้าว เพื่อป้องกันความชื้น
ส่วนที่จ.พิจิตร ชลประทานเร่งแก้ปัญหาภัยแล้ง โดยใช้เขื่อนยางยาว 74 เมตร ขวางแม่น้ำยม บริเวณบ้านจระเข้ผอม อ.สามง่าม จ.พิจิตร เพื่อชะลอการไหลและเก็บกักน้ำ หลังแม่น้ำยมลดระดับอย่างรวดเร็ว แต่ฝายยางมีความสูงเพียง 3 เมตร จึงเก็บกักน้ำได้ไม่มากนัก