เปิดมาตรการรักษาความปลอดภัย รับมือม็อบ เสธ.อ้าย
จุดใกล้กับพื้นที่ชุมนุมสุ่มเสี่ยงต่อการเข้าใกล้ พื้นที่เฝ้าระวังสำคัญอย่างรัฐสภาซึ่งจะมีการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลในวันอาทิตย์ที่ 25 พฤศจิกายนจึงมีด่านสกัดรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด
แต่หากกลุ่มผู้ชุมนุมสามารถผ่านด่านสกัดและมาถึงประตูทางเข้ารัฐสภาได้ การจะเข้าไปภายในสภาทางประตูดังกล่าว ค่อนข้างยาก เพราะจุดนี้ จะปิดล็อค ไม่เปิดให้รถผ่านเข้าออกได้
แต่หากเลยไปอีกไม่เกิน 300 เมตร ก็จะถึงประตูปราสาทเทวฤทธิ์ ซึ่งเป็นทางเข้ารัฐสภาอีกทางหนึ่ง จุดนี้ เป็นจุดที่เจ้าหน้าที่เฝ้าระวังเป็นพิเศษค่ะ เพราะเป็นประตูที่กันไว้ให้รถของ ส.ส.ผ่านเข้าออก ซึ่งที่ผ่านมา ประตูนี้เคยถูกกลุ่มผู้ชุมนุมทางการเมืองหลายกลุ่ม พยายามที่จะบุกเข้าไปในสภาทางด้านนี้
แต่หากสถานการณ์ถึงขั้นที่ผู้ชุมนุมบุกเข้าไปในรัฐสภาเกิดขึ้นจริง และส.ส.จำเป็นต้องหนีออก ก็สามารถใช้เส้นทางทางด้านหลังสภา แต่ต้องปีนบันไดเหล็กข้ามกำแพง ที่ติดกับพระที่นั่งวิมานเมฆที่สภาเตรียมพร้อมไว้แล้ว
สำหรับการรักษาความปลอดภัย กองบัญชาการตำรวจนครบาล ได้ตั้งศูนย์ปฏิบัติการส่วนหน้า 3 จุดหลัก คือ สนามเสือป่า อาคารรัฐสภา และทำเนียบรัฐบาล ซึ่งขณะนี้ตำรวจนำแผงปูนกั้นการจราจรไปปิดไว้หลายจุด ส่วนการดูแลรักษาความปลอดภัยการชุมนุมวันเสาร์นี้(24 พ.ย.) ตำรวจเตรียมกำลังพลทั้งสิ้น 38,550 นาย ซึ่งขณะนี้ลงพื้นที่แล้ว 24,750 นาย ยังอยู่ในที่ตั้งอีก 10,850 นาย
และผลจากการใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ ของรัฐบาล อาจส่งผลกระทบกับประชาชน 3 เขตของกรุงเทพมหานคร คือดุสิต พระนคร และป้อมปราบศัตรูพ่าย เนื่องจากจะมีการคุมเข้ม ประกาศพื้นที่ห้ามเข้า ซึ่งผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อยหรือ ศอ.รส. คือ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ที่นายกรัฐมนตรีมอบหมายงานให้ ได้ออกประกาศห้ามบุคคลเข้าออกพื้นที่อาคารหรือสถานที่ดังต่อไปนี้
ซึ่ง ผอ.ศอ.รส. ระบุว่า ช่วงประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ ประชาชนสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ เพียงแต่จะมีคำสั่งให้ถือปฏิบัติ ออกมาในพื้นที่ที่กำหนดเพื่อความปลอดภัยของประชาชน และความมั่นคงของบ้านเมือง