ตลาดทุนธุรกิจ เอี่ยวเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. เชิญผู้สมัครประชันวิสัยทัศน์ ชูข้อเสนอเป็น “มหานครอันดับหนึ่งในภูมิภาค”

เศรษฐกิจ
5 ก.พ. 56
02:46
29
Logo Thai PBS
ตลาดทุนธุรกิจ เอี่ยวเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. เชิญผู้สมัครประชันวิสัยทัศน์ ชูข้อเสนอเป็น “มหานครอันดับหนึ่งในภูมิภาค”

สภาธุรกิจตลาดทุนไทยเชิญผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. ประชันวิสัยทัศน์หวังชูกรุงเทพฯเป็นมหานคร ศูนย์กลางเศรษฐกิจลงุทน แหล่งเงินนานาชาติ

 นายไพบูลย์ นลินทรางกูร ประธานกรรมการ สภาธุรกิจตลาดทุนไทย (สธท.) กล่าวว่า สธท. เตรียมจัดเวทีแสดงวิสัยทัศน์ผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นผู้ว่าราชการกรุงเทพฯในงาน “วิสัยทัศน์กรุงเทพฯ” เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้สมัครได้แสดงวิสัยทัศน์และนำเสนออนาคตของกรุงเทพฯ ต่อผู้บริหารระดับสูงและบุคลากรขององค์กรสำคัญในตลาดทุน และสื่อมวลชน 

เนื่องจากกรุงเทพฯ เป็น “มหานคร” ที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับที่15ของโลก เป็นศูนย์กลางด้านเศรษฐกิจการลงทุน และด้านการเงินนานาชาติที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เป็นศูนย์กลางความเจริญของประเทศโดยมีสัดส่วนการผลิตถึงร้อยละ51 ของผลผลิตรวมของประเทศ เป็นศูนย์กลางตลาดทุนของประเทศ และกำลังจะเป็นศูนย์กลางตลาดเงินและตลาดทุนของภูมิภาคเมื่อเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) 
 
ดังนั้น นอกเหนือไปจากหน้าที่ความรับผิดชอบโดยทั่วไปที่เกี่ยวกับการบริหารจัดการกรุงเทพฯ ให้สะอาด เรียบร้อย การเดินทางที่สะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้นแล้ว ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครที่มีวิสัยทัศน์กว้างไกล ย่อมมีโอกาสอันดีที่จะนำพากรุงเทพฯ ให้เป็นมหานครอันดับหนึ่งในภูมิภาคนี้ได้โดยกำหนด Positioning ของกรุงเทพฯ ตามวิสัยทัศน์ของแต่ละท่าน ว่ามหานครแห่งนี้ควรชูอะไรเป็นจุดเด่นในเวทีนานาชาติ 
 
สธท. ได้เชิญผู้สมัคร 5 ท่าน ซึ่งเป็นที่สนใจของประชาชน เป็นบุคคลที่มีความรู้และประสบการณ์ด้านตลาดทุนเป็นอย่างดี ได้แก่1) นายโฆสิต สุวินิจจิต 2) พลตำรวจเอก ดร. พงศพัศ พงษ์เจริญ3) รองศาสตราจารย์ หม่อมราชวงศ์สุขุมพันธุ์ บริพัตร 4) นายสุหฤท สยามวาลา และ5) พลตำรวจเอก เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส โดยใช้ชื่องานว่า “วิสัยทัศน์กรุงเทพฯ”โดยหัวข้อที่จะใช้ในการแสดงวิสัยทัศน์นั้น ได้แก่ “ท่านมีวิสัยทัศน์และมุมมองอย่างไรที่จะทำให้กรุงเทพฯ เป็นมหานครศูนย์กลางด้านใด” เช่น เป็นมหานครแห่งเศรษฐกิจและการลงทุน / เป็นมหานครแห่งการท่องเที่ยว /เป็นมหานครแห่งสุขภาพของโลก / เป็นมหานครแห่งความสุข เป็นต้น 
 
หลังจากนั้นทุกคนจะต้องนำเสนอนโยบายด้านต่างๆ ที่จะรองรับวิสัยทัศน์ดังกล่าวข้างต้น ซึ่งจะเป็นระบบมากกว่าที่จะกำหนดว่าจะทำเรื่องต่างๆ แบบเป็นโปรเจคแต่ละเรื่องโดยไม่ได้ระบุวิสัยทัศน์ให้ประชาชนชาวกทม. ได้รับรู้ ซึ่งผลดีคือทุกคนจะได้เห็นภาพกว้างเปรียบเหมือนเห็นป่าทั้งป่าแต่เริ่มแรก มิได้เป็นไปในลักษณะเดิมๆ ที่เห็นต้นไม้ทีละต้น แต่มองภาพรวมไม่ออก 
 
นายไพบูลย์ กล่าวว่าเชื่อว่า การจัดงานในลักษณะดังกล่าวจะเป็นประโยชน์เป็นอย่างมากต่อประชาชน ผู้ลงทุน และบุคลากรในแวดวงตลาดทุนไทย รวมทั้งผู้สมัครฯ และยังเป็นการนำตลาดทุนเข้าไปอยู่ในความสนใจของประชาชนในวงกว้างยิ่งขึ้นซึ่งเป็นหนึ่งในกลยุทธ์การตลาดและแบรนดิ้งของ สธท.โดยงานจะจัดขึ้นในวันจันทร์ที่11กุมภาพันธ์ 2556 เวลา 09:00 – 12:30 น. ณ หอประชุมศาสตราจารย์สังเวียน อินทรวิชัย อาคารตลาดหลักทรัพย์ฯท่านสามารถสำรองที่นั่งได้ที่http://www.fetco.or.th หรือ SET Call Center 02 229 2222 


ข่าวที่เกี่ยวข้อง