สตช.เตรียมปรับกำลังพล รปภ. ใต้

ภูมิภาค
22 มี.ค. 56
03:19
38
Logo Thai PBS
สตช.เตรียมปรับกำลังพล รปภ. ใต้

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เตรียมปรับเปลี่ยนกำลังพลลงไปในพื้นที่เพื่อความเหมาะสมในเดือนเมษายนถึงพฤษภาคมนี้

พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ขวัญกำลังใจของตำรวจในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ยังดีอยู่ และพร้อมในการปฏิบัติหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อยในพื้นที่ โดยในเดือนเมษายนถึงพฤษภาคม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะปรับเปลี่ยนกำลังพลลงไปในพื้นที่เพื่อความเหมาะสม โดยชุดแรกที่จะลงเป็นไป คือ หน่วยปฏิบัติการพิเศษ 38 กองกำลัง ที่เป็นทหารเกณฑ์ปลดประจำการ ซึ่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ฝึกอบรมและบรรจุรับราชการตำรวจ

สำหรับแนวทางการแก้ไขปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ภาคใต้ มองว่าขณะนี้มีสัญญาณที่ดีขึ้น เมื่อประเทศมาเลเซีย ปฏิเสธชัดเจนว่าไม่ต้องการให้กลุ่มผู่ก่อความไม่สงบ ใช้ประเทศมาเลเซียเป็นฐานปฏิบัติการ และยังให้ความร่วมมือในการเจรจาและระหว่างรัฐบาลไทยกับตัวแทนกลุ่ม บีอาร์เอ็น ส่วนการเจรจาพูดคุย ระหว่างตัวแทนกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบและตัวแทนรัฐบาลไทย ที่จะมีขึ้นอีกครั้งในวันที่ 28 มีนาคม ที่ประเทศมาเลเซีย มอบหมายให้ผู้บัญชาการตำรวจสันติบาล เป็นหนึ่งคณะเจรจาของฝ่ายไทย

<"">
<"">

 

ขณะที่ตลาดเปิดท้ายขายของ บนถนนสุวรรณมงคล ตำบลจะบังติกอ อำเภอเมืองจังหวัดปัตตานี ซึ่งมีผู้คนพลุกพล่าน กลายเป็นเป้าหมายที่ถูกกลุ่มผู้ก่อเหตุ ลอบวางระเบิดรถจักรยานยนต์ จนเป็นเหตุให้เด็กชายนโซเฟียน นิสนิ อายุเพียง 8 ขวบถูกสะเก็ดระเบิดเสียชีวิต ขณะเดียวกันก็มีผู้บาดเจ็บจากเหตุการณ์ครั้งนี้อีกนับ 10 คน

สำหรับจุดเกิดเหตุระเบิด เกิดขึ้นบริเวณหน้าสหกรณ์ตำรวจปัตตานี อยู่ติดกับสำนักงานคุมประพฤติจังหวัดปัตตานี ซึ่งพื้นที่บริเวณนี้เป็นจุดที่มีผู้สัญจรไปมาจำนวนมาก เบื้องต้นเจ้าหน้าที่เชื่อว่า การก่อเหตุครั้งนี้เป็นการสร้างสถานการณ์ ซึ่งหลังเกิดเหตุได้มีการเพิ่มมาตรการเฝ้าระวังพื้นที่ ในเขตเทศบาลเมืองปัตตานีอย่างใกล้ชิด เพราะเกรงว่า ผู้ก่อเหตุอาจวางแผนก่อเหตุระเบิดซ้ำ

สำหรับเหตุรุนแรงที่เกิดขึ้น เป็นวันเดียวกับที่ พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ลงพื้นที่อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี เพื่อตรวจเยี่ยม และติดตามการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ ซึ่งการลงพื้นที่ครั้งนี้ กองทัพภาคที่ 4 ได้นำเสนอแผนปฎิบัติการของขบวนการบีอาร์เอ็น โคออร์ดิเนท ในการก่อความไม่สงบ เช่น โครงสร้างขบวนการบีอาร์เอ็นโคออร์ดิเนท การปลุกระดม การประกอบระเบิด และการปฎิบัติการทางทหารของ อาร์เคเค

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ย้ำว่า การเปิดแผนปฎิบัติการให้สังคมรับทราบ ไม่เกี่ยวข้องกับการพูดคุยสันติภาพ เพราะฝ่ายความมั่นคงยังต้องทำหน้าที่รักษาความปลอดภัยให้ประชาชน ส่วนการพูดคุยสันติภาพยังอยู่ในระยะเริ่มต้นเท่านั้น


ข่าวที่เกี่ยวข้อง