ผลบวก "เงินบาทแข็งค่า" ช่วยรัฐเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันมากขึ้น ลดภาระหนี้

30 เม.ย. 56
14:37
40
Logo Thai PBS
ผลบวก "เงินบาทแข็งค่า" ช่วยรัฐเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันมากขึ้น ลดภาระหนี้

เงินบาทแข็งค่าขึ้นกว่าร้อยละ 7 ตั้งแต่ช่วงต้นปี กระทบต่อภาคการส่งออกที่ทำให้ผู้ประกอบการมีกำไรจากสินค้าน้อยลง และราคาสินค้าไทยแพงขึ้นในสายตาต่างชาติ แต่อีกด้านหนึ่ง สินค้านำเข้าจำเป็น เช่น น้ำมัน มีราคาลดลงตามไปด้วย และกระทรวงพลังงานอาศัยจังหวะนี้ เรียกเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันเพิ่มเติม เพื่อปลดหนี้ให้เร็วที่สุด

เกือบสองปีที่กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ต้องมีฐานะติดลบ เพราะเงินในกองทุนส่วนใหญ่ถูกนำไปชดเชยส่วนต่างราคาให้กับก๊าซหุงต้มภาคครัวเรือนและขนส่ง รวมทั้งการยกเว้นเก็บเงินเข้ากองทุนจากผู้ใช้น้ำมันในสมัยที่นายพิชัย นริพทะพันธ์ เป็นรัฐมนตรีพลังงาน มีผลให้กองทุนขาดรายได้จำนวนมาก จนต้องกู้ยืมจากสถาบันการเงินเพื่อพยุงฐานะกองทุน

โชคดีที่ราคาน้ำมันมีแนวโน้มปรับลดลง ทำให้คณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน ตัดสินใจเพิ่มการจัดเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันมากขึ้น เพื่อให้มีเงินชำระหนี้สิน และให้มีรายรับมากกว่ารายจ่าย

   

4-5 เดือนที่เงินบาทปรับ กองทุนถือว่าเป็นหนี้น้อยลง ลดลงจากต้นปี มีองค์ประกอบหลายอย่าง ราคาน้ำมันตลาดโลก ค่าเงินบาทแข็งค่า และราคาแอลพีจีในตลาดโลกลดลงมาเยอะ ช่วงต้นปีปลายฤดูหนาว ราคาแพง และลดลงมาจาก 900 เหลือ 800 ต้นๆ มีแนวโน้มเดือนหน้าอาจลดลงได้อีกนิดหน่อย สามส่วน เป็นปัจจัยปรับอัตราเงบินเก็บ ทำให้มีรายรับเข้ามารายจ่าย

ปัจจุบันฐานะกองทุนสุทธิ ติดลบที่กว่า 8,000 ล้านบาท และมีเงินกู้ที่ต้องชำระให้สถาบันการเงินกว่า 3,600 ล้านบาท จากเดิมต้นปีมียอดถึงกว่า 10,000 ล้านบาท ล่าสุด เงินไหลเข้ากองทุนวันละประมาณ 238 ล้านบาท ทำให้ กบง. ยังมั่นใจว่า ฐานะกองทุนจะกลับมาเป็นบวกได้ในปลายเดือนพฤษภาคมนี้ เว้นแต่ราคาน้ำมันจะสูงขึ้นต่อเนื่อง และยังต้องใช้ชดเชยส่วนต่างราคาแอลพีจีภาคครัวเรือนสำหรับผู้มีรายได้น้อย ที่เตรียมขึ้นราคาในอีกสองเดือนข้างหน้า

   

ก่อนหน้านี้ รัฐบาลเคยมีนโยบายจะยกเลิกกองทุนน้ำมัน เรื่องอาจถูกหยิบยกมาหารืออีกครั้ง หรือหากจะให้มีกองทุนต่อไป อาจต้องกำหนดวัตถุประสงค์ของกองทุนให้ชัดเจน โดยใช้ช่วงเวลาที่สามารถสางหนี้สะสมกองทุนน้ำมัน ปรับโครงสร้างพลังงานของให้เป็นไปตามกลไกตลาด


ข่าวที่เกี่ยวข้อง