เปิดวิธีเวียนจดทะเบียน
รถยนต์ เฟอรารี่ สีแดง ที่ถูกไฟไหม้ ในพื้นที่ สถานีตำรวจภูธรกลางดง จังหวัดนครราชสีมา เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ถูกนำเข้ามาตรวจสอบด้านกายภาพ เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการจดประกอบรถยนต์คันดังกล่าวเป็นรถยนต์ที่เตรียมมาขอขึ้นทะเบียนถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่
ซึ่งเมื่อเจ้าหน้าที่ตรวจสอบกลับพบข้อพิรุธของรถยนต์เฟอร์รารี่คันนี้ คือ พบแผ่นโลหะที่มีหมายเลขตัวถังรถยนต์คันอื่นมาปิดทับเลขตัวถังเดิมของรถ และเมื่อมีการตรวจสอบข้อมูล พบ รถเฟอร์รรารี่คันนี้ได้จดทะเบียนไปแล้ว เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2555 โดยวิธีการนี้เป็น 1ในขบวนการสวมเลขตัวถังรถยนต์หรูเพื่อนำไปขอขึ้นทะเบียนกับสำนักงานขนส่งจังหวัดได้โดยง่าย
ขั้นตอนของกลุ่มขบวนการนำรถยนต์หรูจดประกอบซึ่งใช้วิธีการสวมเลขตัวถังรถยนต์ คือ เมื่อลูกค้าต้องการนำรถยนต์หรูมาจดทะเบียนกับสำนักงานขนส่ง ก็จะติดต่อกับผู้ดำเนินการ ซึ่งจะรู้กันในกลุ่มวงการรถยนต์จดประกอบ โดยผู้ดำเนินการนั้นจะมีรถยนต์หรูยี่ห้อเดียวกันกับลูกค้าทุกยี่ห้อ ซึ่งเป็นรถยนต์ที่ผ่านการตรวจสอบว่าถูกต้องตามกฎหมายพร้อมมีการติดตั้งระบบเชื้อเพลงก๊าซและผ่านการตรวจสอบจาก สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม หรือ สมอ. จากนั้น ผู้ดำเนินการจะใช้วิธีการสวมเลขตัวถังรถยนต์ ซึ่งจะมีการนำแผ่นโลหะที่มีการปลอมแปลงตัวเลขให้ตรงกับเลขตัวถังรถยนต์ของลูกค้า เพื่อนำไปปิดทับไว้ที่รถยนต์หรูของผู้ดำเนินการ พร้อมแปลงสภาพภายนอกทั้งการเปลี่ยนสีให้ตรงกับรถยนต์หรูของลูกค้า แล้วจึงขับนำไปขอขึ้นทะเบียน ซึ่งเจ้าหน้าที่ตรวจสอบและไม่พบสิ่งผิดปกติใด ก็จะอนุมัติเลขทะเบียนรถยนต์ตามที่ร้องขอ
เมื่อผู้ดำเนินการได้สมุดทะเบียนรถยนต์ที่ระบุทั้งเลขตัวถังรถยนต์และสีที่มีการปลอมแปลงให้ถูกต้องแล้ว ผู้ประกอบการก็จะนำป้ายทะเบียนพร้อมสมุดทะเบียนรถยนต์ส่งต่อให้ลูกค้าต่อไป โดยนายธิาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เชื่อว่า รถยนต์หรูที่ถูกไฟไหม้และกำลังเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบนั้น มีพฤติการณ์การเลี่ยงภาษีด้วยการใช้วิธีการเหล่านี้
จากข้อมูลของดีเอสไอ พบผู้ดำเนินการในเรื่องนี้มีหลายกลุ่ม โดย 1 ในนั้น คือ นายพันวสิน วิลัยแก้ว ซึ่งเป็นเครือข่ายใหญ่ โดยขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการติดตามตัวมาดำเนินคดี