พิพิธภัณฑ์นักสร้างไวโอลิน "อันโตนิโอ สตราดิวารี"

แม้เมืองเครโมน่าในอิตาลี จะไม่ใช่เมืองท่องเที่ยวอย่าง ฟลอเรนซ์ เวนิซ หรือโรม แต่สำหรับผู้มีเสียงเพลงในหัวใจแล้ว ที่นี่ถือเป็นเมืองหลวงแห่งการประดิษฐ์ไวโอลิน ซึ่งเตรียมเปิดตัวพิพิธภัณฑ์แห่งใหม่โดยรวบรวมสุดยอดผลงานของ อันโตนิโอ สตราดิวารี นักสร้างไวโอลินอันดับ

เสียงบาดอารมณ์จากการบรรเลงด้วย Soil Stradivarius ไวโอลินอันโด่งดัง เคยสร้างชื่อให้เจ้าของเดิมอย่าง เยฮูดี เมนูฮิน เป็นที่รู้จักในฐานะสุดยอดนักไวโอลินแห่งศตวรรษที่ 20 ไม่ต่างจากชื่อเสียงของยิทซัค เพิร์ลแมนเจ้าของคนปัจจุบัน ที่ได้รับการยกย่องในฐานะนักไวโอลินแถวหน้า นับเป็นความอมตะในน้ำเสียงที่ยืนยงร่วม 300 ปีจากผลงานการประดิษฐ์ของ อันโตนิโอ สตราดิวารี นักสร้างไวโอลินในตำนานของเมืองเครโมน่า ประเทศอิตาลี ซึ่งล่าสุดทางเมืองได้ร่วมกันก่อสร้าง Violin Museum พิพิธภัณฑ์แห่งใหม่ที่จะเป็นศูนย์รวมไวโอลินของสกุลสตราดิวารีที่ใหญ่ที่สุดในโลก

แผนการสร้าง Violin Museum ที่เมืองเครโมน่า ได้รับความร่วมมือจากนักสะสมทั่วโลกโดยให้ยืมไวโอลินมูลค่านับสิบล้านมาร่วมจัดแสดง ซึ่งชิ้นเยี่ยมมาจากศาลากลางเมืองเครโมน่าซึ่งรวบรวมชุดสะสมไวโอลินสตราดิวาเรียสมูลค่ากว่า 600 ล้านบาท โดยหนึ่งในนั้นคือ The Cremonese ไวโอลินส่วนตัวของ โจเซฟ โจอาคิม ยอดนักไวโอลินแห่งยุคโรแมนติด ซึ่งแอนเดร มอสโคนี นักดนตรีวิทยาผู้ดูแลชุดสะสมดังกล่าวบอกว่า สตราดิวาเรียสช่วยให้เทคนิคยากๆ เล่นออกมาได้ง่าย และทำให้การเล่นของศิลปินมีความสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น

ในพิพิธภัณฑ์ยังมีการสร้างห้องจัดแสดงดนตรีรูปไวโอลิน ซึ่งต่อเติมด้วยไม้เมเปิ้ลเหมือนที่ใช้ประดิษฐ์ไวโอลิน เพื่อให้ผู้ชมรู้สึกเหมือนนั่งอยู่ในเครื่องดนตรี รวมถึงสื่อมัลติมีเดีย เพื่อให้บริการข้อมูลด้านประวัติศาสตร์การสร้างเครื่องดนตรี ที่ทำให้ชื่อของสตราดิวาเรียสเป็นที่ยอมรับในกลุ่มงนักดนตรีและแฟนเพลงทุกยุคสมัย ซึ่ง จอร์โจ้ กรีซาลิส ประธานกลุ่มผู้ประดิษฐ์ไวโอลินของเมืองเครโมน่า ยอมรับว่าการสร้าง Violin Museum จะทำให้เมืองได้รับความสนใจจากผู้หลงใหลเสียงดนตรีจากทั่วโลก

ชื่อเสียงของไวโอลินสตราดิวาเรียส ยังเป็นแรงบันดาลใจในหนังละครมากมาย ทั้งใน เชอร์ล็อก โฮล์มส์ ที่นักสืบคนดัง หาเวลาว่างด้วยการเล่นสตราดิวาเรียส ถ่ายทอดในการ์ตูนทั้ง Detective School Q และ The Simpsons และในซีรีส์ Leverage และ White Collar โดย Red Mendelssohn หนึ่งในสุดยอดผลงานของสตราดิวารี ยังนำไปเสนอเป็นแกนเรื่องหลักของ The Red Violin ภาพยนตร์ยอดเยี่ยมปี 1998 อีกด้วย