ผลสอบคดีเอกยุทธ"กสม."ขัดแย้ง"ตร."

อาชญากรรม
14 ส.ค. 56
14:58
99
Logo Thai PBS
ผลสอบคดีเอกยุทธ"กสม."ขัดแย้ง"ตร."

ผ่านมากว่า 2 เดือน แล้วสำหรับการเสียชีวิตนายเอกยุทธ อัญชันบุตร วันนี้ (14 ส.ค.) ได้รับความสนใจอีกครั้ง หลังมีผลการสอบสวน จากคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน ที่ออกมาขัดแย้งกับผลสอบของตำรวจ รวมทั้งการออกมาเปิดเผยข้อมูลของทนายความนายเอกยุทธที่ ว่า 1 ในผู้ต้องหากลับคำให้การ ว่ารับจ้างทีมสังหาร คนมีสี ด้วยเงิน 3 ล้านบาท

ทนายความยังบอกอีกว่า ขณะนี้เขาได้ยุติบทบาทการเป็นทนายในคดีนี้แล้วเพราะถูกตำหนิจากญาตินายเอกยุทธ และถูกข่มขู่ ขณะที่สำนวนคดีทั้งหมดตำรวจยังยืนยัน จะส่งฟ้องผู้ต้องหา ด้วยสาเหตุการฆาตกรรมที่หวังต่อทรัพย์ และยังไม่ชัดเจนว่าจะนำผลการสอบสวนของคณะกรรมการสิทธิฯประกอบสำนวนหรือไม่

ผลการชันสูตรพลิกศพและผลการตรวจสอบ สาเหตุการเสียชีวิต นายเอกยุทธ อัญชันบุตร ของชุดคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน ถือว่าเปิดประเด็นคดีนี้ขึ้นมาอีกครั้ง เพราะไม่เพียงจะตรงกันข้ามกับ สำนวนการสืบสวนสอบสวนของตำรวจ ที่ได้จากปากคำผู้ต้องหา แต่ได้อ้างอิงผลการ ชันสูตรของแพทย์ผู้ตรวจพิสูจน์ศพ

คดีนี้ตำรวจเตรียม สรุปสำนวนว่าเป็นการฆาตกรรม เพื่อหวังต่อทรัพย์ และเตรียมสั่งฟ้อง ผู้ต้องหา 4 คน ข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและไตร่ตรองไว้ก่อน และร่วมกันชิงทรัพย์ ร่วมกันซ่อนเร้นอำพรางศพ และ พ.ร.บ.อาวุธปืน

ผลที่ขัดแย้งกับ สำนวนของตำรวจ เช่น ผลตรวจบาดแผล และสาเหตุการเสียชีวิต รวมถึง วิธีการทำให้เสียชีวิต ซึ่งผลคณะกรรมการสิทธิเชื่อว่า นายเอกยุทธ เสียชีวิตจาก ฝีมือผู้เชี่ยวชาญ ที่ได้รับการฝึกมาอย่างดี ไม่ใช่ผู้ต้องหาที่ถูกจับ ได้ก่อนหน้านี้

ขณะที่ทนายความนายเอกยุทธ ก็ออกมาเปิดเผยข้อมูลล่าสุด ที่ได้จากการพูดคุยกับนายสันติภาพ ที่ขณะนี้ ถูกควบคุมตัวในเรือนจำ ซึ่งเป็นข้อมูล ที่ตรงข้ามกับที่เคยให้การกับตำรวจ

ย้อนมาตรวจสอบ คำรับสารภาพของนายสันติภาพ ครั้งแรก หลังถูกติดตามได้ที่ จ.สมุทรสาคร พร้อมรถโฟล์ก ของนายเอกยุทธ คือ นายเอกยุทธ ให้ไปส่งบริเวณริมถนนบายพาส หัวหิน เพชรบุรี ก่อนจะขึ้นรถเพื่อนที่มารับไป คาดว่าจะเดินทางไปประเทศเพื่อนบ้าน

คำรับสารภาพครั้งที่ 2 เกิดขึ้นไม่นานหลังถูกสอบสวนอย่างหนัก นายสันติภาพกลับคำให้การว่า ได้ร่วมกับเพื่อนคือนายสุทธิพงศ์ พิมพิสาร บีบคอนายเอกยุทธ จนเสียชีวิต เพื่อชิงทรัพย์และนำศพไปฝังอำพรางที่ จ.พัทลุง

และคำรับสารภาพครั้งที่ 3 นายสันติภาพกลับคำให้การอีกครั้งว่า ได้รับการว่าจ้าง 3,000,000 บาท ให้อยู่ในทีมสังหารสังหารนายเอกยุทธ โดยคนลงมือคือบุคคลมีสี สอดคล้องกับผลของคณะกรรมการสิทธิฯที่ ระบุพบการเตรียมการสังหารมาอย่างดี

นายสุวัตร ทนายความนายเอกยุทธ ยังบอกอีกว่า ในวันนี้เขาได้ยุติบทบาทการเป็นทนายความแล้ว สาเหตุเพราะถูกตำหนิจากทางญาตินายเอกยุทธ รวมไปถึงการถูกข่มขู่ ด้าน พล.ต.ต.อนุชัย เล็กบำรุง หัวหน้าพนักงานสอบสวน เผยว่า กรณีนี้หากใครมีหลักฐานใหม่ก็ขอให้นำมาให้ตำรวจ แต่ยังยืนยันว่ามูลเหตุคดีนี้มาจากเรื่องชิงทรัพย์และจะสรุปสำนวนส่งอัยการสัปดาห์หน้า

นายเอกยุทธ ถือเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียง ทั้งในวงการธุรกิจ และการเมือง การหายตัวไปตั้งแต่ต้น และการเสียชีวิตจึงได้รับความสนใจ โดยเฉพาะประเด็นเกี่ยวข้องกับบุคคล ทางการเมือง ที่กำลังถูกฟ้องร้อง และต้องไม่ลืมว่า หลักฐานชิ้นสำคัญที่หายไปคือข้อมูลพร้อมคอมพิวเตอร์ส่วนตัว ที่จะใช้เปิดโปงข้อมูลและต่อสู้ในชั้นศาล การกลับคำให้การของผู้ต้องหา การซัดทอดคนมีสี จะส่งผลถึงความปลอดภัยหรือไม่ คดีจะเป็นอย่างไร หลังตำรวจยืนยันว่าจะส่งสำนวนในสัปดาห์หน้า


แท็กที่เกี่ยวข้อง:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง