กรมชลประทาน เตือนทะเลหนุนสูงสัปดาห์นี้-ยังไร้แผนระบายน้ำท่วมตะวันออก
กรมชลประทาน ระบุ ยังไม่มีแผนรองรับการระบายน้ำท่วมภาคตะวันออก ทำให้การระบายน้ำต้องพึ่งพาจากแม่น้ำสายต่างๆในพื้นที่ ขณะเดียวกันยังเตือน ชุมชน นอกคันกั้นน้ำในจ.ปทุมธานี, นนทบุรี และกรุงเทพมหานคร เตรียมรับมือน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาล้นตลิ่งจากปริมาณน้ำเหนือ และน้ำทะเลหนุนสูง ในช่วงวันที่ 7-12 ตุลาคมนี้
ศูนย์ประมวลวิเคราะห์สถานการณ์น้ำ กรมชลประทาน เปิดเผยว่า ในช่วงวันที่ 7-12 ตุลาคมนี้ ในแม่น้ำเจ้าพระยาว่า จะเป็นช่วงที่เกิดภาวะน้ำทะเลหนุนสูง และยังคงมีปริมาณน้ำเหนือไหลลงสู่พื้นที่ตอนล่าง ส่งผลให้บริเวณริมสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา จะได้รับผลกระทบจากภาวะน้ำเอ่อล้นตลิ่ง ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นพื้นที่นอกเขตคันกั้นน้ำ จึงขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ริมสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาในเขตจ.ปทุมธานี, นนทบุรี และกรุงเทพมหานคร ติดตามสถานการณ์น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาในระยะนี้อย่างใกล้ชิด
ด้านนายสุเทพ น้อยไพโรจน์ รองอธิบดีกรมชลประทาน กล่าวถึง สถานการณ์น้ำภาคตะวันออกว่า สาเหตุที่น้ำท่วมมากในปีนี้ ปัจจัยแรก น่าจะมาจากฝนตกหนักในช่วงปลายปี และกระจุกตัวต่อเนื่อง ตั้งแต่วันที่ 19 กันยายน จนถึงปัจจุบัน
นอกจากนี้ ร่องมรสุมยังเคลื่อนตัวไปจุดเดิม คือพื้นที่ จังหวัดสระแก้ว ปราจีนบุรี ทำให้ฝนตกหนักบริเวณเขาใหญ่ต่อเนื่อง น้ำท่าจึงไหลลงไปสู่แม่น้ำที่เป็นรอยต่อกับเขาใหญ่ และไหลลงไปสู่แม่น้ำปราจีนจนไม่สามารถระบายได้ทัน
ปัจจัยที่สอง เนื่องมาจากพื้นที่ภาคตะวันออกไม่มีเขื่อนและอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ แม้จะมีเขื่อนขุนด่านปราการชลที่ จ.นครนายก แต่ก็ช่วยภาคตะวันออกได้เพียง 1 ใน 3 เท่านั้น
ขณะเดียวกันในลุ่มน้ำอื่นๆ เช่น แม่น้ำปราจีน แม่น้ำบางประกง ยังไม่มีอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ มีเพียงเขื่อนคลองสียัด ที่ช่วยเก็บน้ำเอาไว้เต็มที่ แต่ไม่มีการระบายน้ำออกเลยในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งใช้วิธีการปล่อยให้น้ำล้นสปริงเวย์ เขื่อนออกไปโดยไม่มีการระบายออกจากท้ายเขื่อน เพื่อไม่ให้ซ้ำเติมพื้นที่ซึ่งได้รับผลกระทบอยู่แล้ว
นายสุเทพยังยอมรับว่า ยังไม่มี การวางแผนในเรื่องของการะบายน้ำภาคตะวันออก ทำให้ต้องพึ่งพาการระบายจากแม่น้ำต่างๆในพื้นที่ ส่วนอ่างเก็บน้ำอยู่ระหว่างการดำเนินการก่อสร้าง ขณะที่เครื่องมือการระบายน้ำอื่นไม่มีสถานนะระบายน้ำมีเพียงแม่น้ำบางประกงที่มีเขื่อนทดน้ำเพื่อเอาไว้ใช้บริหารจัดการน้ำในช่วงน้ำทะเลหนุนสูง