กบอ.ปรับวิธีรับฟังความเห็นโครงการน้ำ
ในรายการสถานีประชาชนวันที่ 10 ตุลาคมที่ผ่านมา อนุกรรมการรับฟังความเห็นประชาชน โครงการบริหารจัดการน้ำ ชี้แจงว่า ชาวบ้านที่สมัครเข้ามาในเวทีรับฟังความเห็น ของคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย (กบอ.) สามารถรวมกลุ่ม เพื่อนำเวลาคนละ 3 นาทีมารวมกัน และหาผู้แทน 1 คนเป็นผู้พูดแทน เพื่อให้มีเวลาพูดได้มากขึ้น
ขณะที่นายสุรศักด์ คลังสุภาวิพัฒน์ นักวิชาการจากวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย บอกว่า รูปแบบการจัดเวทีภาคเช้า เป็นการชี้แจ้งข้อมูลต่อประชาชน และภาคบ่ายเปิดโอกาสให้ประชาชนแสดงความคิดเห็น
โดยนักวิชาการเป็นผู้รวบรวมข้อมูล อาจจะทำให้ผู้ที่ได้รับผลกระทบไม่ได้คำตอบ เพราะเป็นการรับฟังอย่างเดียว และไม่มีทางเลือกให้ร่วมคิดและตัดสินใจ จึงเป็นเหมือนการประมวลผล เพื่อนำมาแก้ต่างต่อศาลปกครองเท่านั้น
ขณะเดียวกันนายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน ได้ไปยื่นขอให้ศาลปกครองกลางไต่สวนฉุกเฉิน เพื่อคุ้มครองชั่วคราวระงับการเปิดเวทีรับฟังความเห็นประชาชน เพราะขัดต่อคำสั่งศาลฯ ที่ให้รัฐบาลศึกษาผลกระทบสุขภาพ และสิ่งแวดล้อม (EHIA) และสร้างกระบวนการรับฟังความคิดเห็นอย่างทั่วถึง รวมทั้งขัดกับกฏหมายรัฐธรรมนูญ โดยคาดว่าศาลอาจนัดไต่สวนฉุกเฉิน ในวันที่ 11 ตุลาคม หรือวันจันทร์ที่ 14 ตุลาคม
ส่วนที่ จ.อุทัยธานี ได้มีเวทีเสวนาการบริหารจัดการน้ำแบบมีส่วนร่วม ที่องค์การบริหารส่วนจังหวัดจัดขึ้น ชาวอุทัยธานีส่วนหนึ่งบอกว่าไม่ทราบข้อมูลของโครงการ และผลกระทบที่จะเกิดขึ้น
ส่วน รศ.สุวัฒนา จิตตลดากร นักวิชาการจากวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย บอกว่า การทำแผนแม่บท และการจัดทำโครงการนี้ผิดหลักวิศวกรรมและส่อว่าจะล้มเหลว เพราะไม่มีการศึกษาผลกระทบอย่างรอบด้าน
ขณะที่นายเผด็จ นุ้ยปรี นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุทัยธานี เห็นว่า โครงการสร้างคลองผันน้ำที่จะผ่านอุทัยธานีจะตัดขาดแม่น้ำอย่างน้อย 4 สายสำคัญที่หล่อเลี้ยงชาวอุทัยธานี ซึ่งจะมีผลกระทบอย่างมาก