ชาวจ.ปทุมธานี ไม่พอใจ รูปแบบเวทีฟังความเห็นน้ำ ชี้ ให้เวลาแสดงความเห็นน้อย
การจัดเวทีรับฟังความคิดเห็นโครงการบริหารจัดการน้ำของรัฐบาลก็จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 10 แล้ว โดยเมื่อวานนี้ (13 พ.ย.) จัดขึ้นพร้อมกันที่ จ.ตาก และปทุมธานี โดยในเวทีจ.ปทุมธานี ชาวบ้านบางส่วนที่เข้าร่วมรับฟังความคิดเห็นครั้งนี้เห็นว่า รูปแบบขั้นตอนของกิจกรรม ยังไม่ใช่กระบวนการรับฟังความคิดเห็น แผนแม่บทบริหารจัดการทรัพยกรน้ำตามที่ศาลปกครองพิพากษา เพราะประชาชนมีโอกาสแสดงความคิดเห็นน้อยเกินไป
การจัดเวทีรับฟังความคิดโครงการบริหารจัดการน้ำที่ จ.ปทุมธานี มีประชาชนให้ความสนใจ เข้าร่วมเวทีรับฟังความคิดเห็นจำนวนมาก แต่หลังจากที่ทีมวิทยากรให้ข้อมูล การสร้างพื้นที่ปิดล้อม สัญญา A2 และการก่อสร้างคลองผันน้ำฝั่งตะวันออก สัญญา 5 ที่จะดำเนินการก่อสร้างในพื้นที่จ.ปทุมธานี ช่วงเช้าเสร็จ ก็ได้จัดให้ประชาชนผู้มีส่วนได้เสียเข้าห้องประชุมย่อยทันที
รูปแบบการจัดเวทีรับฟังความคิดเห็นที่ต่างไปจากเดิม ยังทำให้ชาวจ.ปทุมธานีบางส่วนแสดงท่าทีไม่พอใจ เพราะพวกเขามองว่า การแสดงความคิดเห็นที่แท้จริง ควรอยู่ในห้องประชุมใหญ่มากกว่าห้องประชุมย่อย เพื่อให้ผู้มีส่วนได้เสีย ได้รับรู้ข้อมูลตรงกัน
รศ.อภิชาติ อนุกูลอำไพ ประธานอนุกรรมการวิชาการ และวิเคราะห์โครงการคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย (กบอ.) ที่เข้าร่วมสังเกตการณ์ รับปากว่า กบอ.จะนำปัญหาที่เกิดขึ้นจากโครงการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมระยะเร่งด่วน 120,000 ล้านบาท ไปปรับปรุงรูปแบบการก่อสร้างให้มีมาตรฐานมากกว่าเดิม
รศ. อภิชาติ ยืนยันว่า การก่อสร้างพื้นที่ปิดล้อม และการสร้างคลองผันน้ำ ในพื้นที่จังหวัดปทุมธานี ชาวบ้านจะไม่ได้รับผลกระทบมากเหมือนจังหวัดอื่นๆ เพราะไม่มีการเวนคืนที่ดิน ส่วนความกังวลใจของชาวบ้านที่อยู่ริมคลอง ที่อาจจะได้รับผลกระทบจากกการขยายคลองระพีพัฒน์ รัฐบาลก็จะเยียวยาอย่างเหมาะสม
