วันนี้ (3 ก.ย.2559) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่เจ้าหน้าที่สำนักการโยธา กรุงเทพมหานคร และตำรวจกองบังคับการปราบปราม เตรียมเข้าไปรื้อถอนบ้านเรือนและสิ่งปลูกสร้าง 13 หลัง ภายในชุมชนป้อมมหากาฬที่บริเวณประตูทางเข้าริมคลองโอ่งอ่าง ได้เกิดความชุลมุนโดยชาวบ้านนั่งรวมกลุ่มขัดขวางไม่ให้เจ้าหน้าที่เข้าไปภายในชุมชนและแสดงความไม่พอใจเจ้าหน้าที่จนต้องยุติการปฏิบัติการชั่วคราว หลังรื้อได้เพียงรั้วสังกะสีที่อยู่รอบนอก ไม่สามารถเข้าไปภายในชุมชนเพื่อรื้อถอนต่อไปได้ แต่ไม่มีความรุนแรง
จากนั้น พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เข้าเจรจากับตัวแทนชาวบ้านบริเวณริมคลองหลอด ถนนมหาไชย ซึ่งอยู่ท้ายกำแพงของชุมชนป้อมมหากาฬ โดยนำเจ้าของบ้านที่ยินยอมให้กรุงเทพมหานครรื้อถอนบ้านเรือนเข้าร่วมเจรจาด้วย แต่ไม่สำเร็จ ต่อมาตัวแทนชาวบ้านกับกรุงเทพมหานครหารือร่วมกันโดยมีนางอังคณา นีละไพจิตร กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เป็นตัวกลาง ได้ข้อสรุปร่วมกันว่า กรุงเทพมหานครยืนยันดำเนินการตามกฎหมาย ส่วนการรื้อถอนจะดำเนินการเพียงบ้านเรือนที่ยินยอม 12 หลัง แต่จะคงบ้านไม้สักโบราณที่ตั้งอยู่กลางชุมชนและอนุญาตให้ชาวบ้านช่วยกันทำความสะอาดได้ แต่ไม่อนุญาตให้อยู่พักอาศัย ใช้เวลาดำเนินการ 2 วัน ส่วนบ้านหลังที่เหลือจะรื้อถอนเมื่อเจ้าของบ้านสมัครใจโดยให้แล้วเสร็จภายในสิ้นปีนี้
ด้านตัวแทนชุมชนป้อมมหากาฬ ยินดีให้กรุงเทพมหานครรื้อถอน แต่เรียกร้องให้ตั้งคณะกรรมการร่วมจากทุกฝ่ายเพื่อหารือแนวทางแก้ปัญหา โดยมีกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติร่วมเป็นคณะกรรมการ
สำหรับการรื้อย้าย กรุงเทพมหานครจะจัดเจ้าหน้าที่ที่ 5 ชุด ชุดละ 44 คนเข้ารื้อถอน โดยจะประสานการไฟฟ้านครหลวงและการประปานครหลวงดำเนินการตัดไฟฟ้าและน้ำประปาเป็นรายหลังเฉพาะที่ทำการรื้อย้ายเท่านั้น
ข่าวที่เกี่ยวข้อง: ชาวชุมชนป้อมมหากาฬขวางทางเข้ารื้อชุมชน-ขอเจรจา กทม.