วันนี้ (7 ต.ค.2559) รศ.สุวัฒนา จิตตลดากร ที่ปรึกษาอนุกรรมการสาขาวิศวกรรมแหล่งน้ำ วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ระบุว่า ร่างพระราชบัญญัติทรัพยากรน้ำที่อยู่ระหว่างการพิจารณาของสภาขับเคลื่อนการปฏิรูป (สปท.) จะกำหนดโครงสร้าง ภาระหน้าที่และเป้าหมายขององค์กรที่ทำหน้าที่บริหารจัดการน้ำ ดังนั้นการปรับโครงสร้างองค์กรเพื่อตั้งกรมใหม่ด้านน้ำ จึงควรรอกฎหมายด้านน้ำฉบับนี้ให้ออกมาก่อน เพราะการปฏิรูปการบริหารจัดการน้ำควรทำทั้งระบบและทุกหน่วยงานด้านน้ำ ต้องมีส่วนร่วม
สอดคล้องกับ นางลัดดาวัลย์ คำภา รองเลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เห็นว่า กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ต้องหารือกับหน่วยงานเกี่ยวข้อง เพราะฉะนั้นสิ่งที่อยากเสนอก็คือว่า เราช่วยกันผลักดันร่าง พ.ร.บ.น้ำแห่งชาติให้ออกมาก่อน เพราะในเนื้อหาจะระบุว่ามีฝ่ายเลขา คณะกรรมการน้ำที่เป็นคนกลาง ตัวประสาน และมีการปรับโครงสร้างองค์กรที่เกี่ยวข้อง ซึ่งจะทำให้เกิดการปรับเป็นระบบ คือ หลังจากมี พ.ร.บ.น้ำทุกหน่วยงานเกี่ยวกับน้ำก็ต้องมาปรับปรุงกันเป็นระบบเหมือนกัน จะได้เกิดการสอดประสานกัน แทนที่ต่างคนจะต่างไปทำทำให้เกิดความซ้ำซ้อนกัน
หลังจากพระราชบัญญัติทรัพยากรน้ำ ผ่านการพิจารณาและประกาศใช้ นายเลอศักดิ์ ริ้วตระกูลไพบูลย์ อดีตอธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร บอกว่า จะระดมความคิดเห็นเพื่อตั้งสภาพัฒน์น้ำ หรือ คณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติขึ้น และทุกหน่วยงานต้องมีการบูรณาการทำงาน เพื่อบริหารจัดการน้ำทั้งระบบ