วันนี้ (1 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณี กลุ่ม"ปราสาททองโอสถ ทุ่มเงินกว่า 1,900 ล้านบาท ถือหุ้น 50% ของ สถานีโทรทัศน์ช่อง "ONE" ฟรีทีวี ในระบบดิจิทัล ช่อง 31 นั้น นายธวัชชัย จิตรภาษ์นันท์ กรรมการ กสทช. เปิดเผยว่า เบื้องต้นไม่พบว่าเป็นการทำผิดกฎการถือครองสื่อ ตามหลักเกณฑ์ของ กสทช. เนื่องจาก บุคคลที่ซื้อหุ้นของช่อง ONE คือ บริษัท ประนันท์ภรณ์ จำกัด ซึ่งมี น.ส.ปรมาภรณ์ ปราสาททองโอสถ เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ ซึ่งเป็นบุตรสาวของ นายแพทย์ปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ โดยเบื้องต้นเท่าที่ทราบ ไม่พบว่า น.ส.ปรมาภรณ์ มีรายชื่อเป็นผู้ถือหุ้นอยู่ใน สถานโทรทัศน์ช่อง "PPTV" ฟรีทีวีในระบบดิจิทัลช่อง 36 ซี่งมีนายแพทย์ปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ เป็นเจ้าของ ในนามบริษัท บางกอก มีเดีย แอนด์ บรอดคาสติ้ง จำกัด โดยขั้นตอนแล้ว ทางสถานีโทรทัศน์ช่อง ONE ต้องแจ้งให้ กสทช.รับทราบตามขั้นตอน เมื่อมีการเปลี่ยนมือ หรือ เปลี่ยนแปลงสัดส่วนการถือครองหุ้น ในขั้นนี้ กสทช.ดูเฉพาะข้อกฎหมายเท่านั้น ไม่เกี่ยวข้องกับกรณีที่สื่อมวลชนตั้งข้อสังเกตว่า การถือครองธุรกิจสื่อของกลุ่ม”ปราสาททองโอสถ” จะทำให้จะเห็นถึงการขยายธุรกิจของกลุ่มทุนที่ต้องการครอบครองสื่อมากขึ้น ซึ่ง ขณะนี้ กสทช.พิจารณาที่ข้อกฎหมายเท่านั้น
ผู้สื่อข่าวรายงาน การซื้อหุ้นในกลุ่มสถานีโทรทัศน์ ช่อง ONE นั้น ทางผู้บริหารของสถานีโทรทัศน์ PPTV ยังไม่เคยรับทราบมาก่อน จนเมื่อปรากฏผ่านสื่อมวลชนและที่ผ่านมา ทางนายแพทย์ปราเสริฐ ยังไม่เคยเกริ่นเรื่องนี้กับทาง PPTV ว่าจะมีแผนงานดำเนินการหรือทิศทางอย่างไร กับช่อง ONE ซึ่งประเด็นที่เกิดขึ้น อาจต้องรอความชัดเจนจากทางนายแพทย์ปราเสริฐ สำหรับ ช่อง PPTV และ ช่อง ONE วัน เป็นฟรีทีวี ในระบบดิจิทัล ประเภทความคมชัดสูง (HD) ทั้งคู่ และเป็น 2 ใน 24 ช่อง ที่อยู่ในกลุ่มประมูลใบอนุญาตจาก สำนักงาน กสทช.
ด้าน พ.อ.นที ศุกลรัตน์ ประธานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง (กสท.) เปิดเผยว่า ตามขั้นตอน ทางสถานีโทรทัศน์ช่อง "ONE" จะต้องแจ้งมาที่สำนักงาน กสทช. เพื่อให้รับทราบเกี่ยวกับ การเปลี่ยนแปลงสัดส่วน และรายชื่อถือหุ้น ทั้งกรรมการบริษัท หรือผู้มีอำนาจ สำหรับการประเด็นการถือครองสิทธิ์ข้ามสื่อนั้น ส่วนตัวมองว่า ขณะนี้ยังไม่นำไปสู่เหตุการณ์เช่นนั้น แม้หากพบว่า น.ส.ปรมาภรณ์ จะมีสัดส่วนถือหุ้นอยู่ใน PPTV ก็ตาม แต่เบื้องต้นรับทราบว่า ไม่มี ก็ไม่ได้ทำให้เกิดบรรยากาศที่จะมีกลุ่มทุนใหญ่ครอบงำสื่อ เพราะปัจจุบัน สื่อโทรทัศน์ โดยเฉพาะกลุ่มฟรีทีวี ก็ยังมีผู้ประกอบการอีกกว่า 20 ช่อง การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างสำคัญนั้น ต้องดูว่า เป็นต่างชาติถือครอง หรือ เทคโอเวอร์หรือไม่ กรณีเช่นนี้ กสทช.ถึงจะพิจารณาอีกครั้ง
สำหรับที่ผ่านมาเคยเกิดกรณี บริษัท นิวส์ เน็ตเวิร์ค คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (NEWS) ซึ่งเดิมคือ บริษัท โซลูชั่น คอนเนอร์ (1998) จำกัด (มหาชน) (SLC) ซื้อหุ้นของบริษัท เนชั่น มัลติมีเดีย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (NMG) ที่ผ่านมา กติกาของ กสทช.เอง ก็ยังไม่ได้ออกกฎอะไรมาควบคุม
การยึดหลักตามเงื่อนไขเดิมของ กสทช.คือกรณี การบังคับกับผู้เข้าร่วมประมูลทีวีดิจิทัลเท่านั้น และใช้บังคับเฉพาะช่วงเข้าประมูล แต่ไม่ได้มีผลผูกพันมาถึงการรับใบอนุญาตหลังจากชนะการประมูล ได้แก่ การประมูลในแต่ละประเภท จำนวน 4 ประเภท ได้แก่ กลุ่มประเภทรายการเด็กเยาวชน และครอบครัว กลุ่มประเภทช่องรายการข่าวสารและสาระ ช่องรายการทั่วไปความคมชัดปกติ (SD) และกลุ่มช่องรายการทั่วไปความคมชัดสูง (HD) ห้ามประมูลแต่ละประเภทเกิน 1 ช่อง และเงื่อนไขคือ ช่องข่าว กับ ช่อง HD ห้ามเป็นบริษัทเดียวกัน
“แนวโน้มการครอบงำ หรือ การถือครองสิทธิ์ข้ามสื่อนั้นยังไม่มีแนวโน้มจะเกิดขึ้นจนถึงขณะนี้ อุตสาหกรรมสื่อในขณะนี้มีจำนวนมาก และหากดูว่า มีการควบคุมระหว่าง PPTV หรือ ช่อง ONE ก็ตามจะเห็นว่าได้ว่า สัดส่วนความนิยมของผู้ชม (เรตติ้ง) ยังมีรวมกันไม่ถึง 10% ด้วยซ้ำ” พ.อ.นที กล่าว
นายถกลเกียรติ วีรวรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เดอะ วัน เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด เปิดเผยว่า ผู้ร่วมทุนรายใหม่คือ บริษัทประนันท์ภรณ์ ซึ่งเป็นบริษัทที่เน้นการลงทุน ที่เล็งเห็นในโอกาสการเติบโตของช่อง ONE ซึ่งที่ผ่านมามีอัตราการเจริญเติบโตรวดเร็วและต่อเนื่องมาโดยตลอด อีกทั้งมีความเชื่อมั่นในการบริหารงานของทีมงานช่องวัน ภายหลังจากที่ได้เข้ามาถือหุ้นแล้วโครงสร้างการบริหารงานของช่องไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลง