“ กรมชล” เตือน 3 จว.ภาคใต้ เฝ้าระวังฝนตกหนักอีกระลอก

ภัยพิบัติ
22 ธ.ค. 59
17:18
561
Logo Thai PBS
“ กรมชล” เตือน 3 จว.ภาคใต้ เฝ้าระวังฝนตกหนักอีกระลอก
เกิดฝนตกหนักอีกระลอก ส่งผลสถานการณ์น้ำภาคใต้ตอนล่างคือ ยะลา ปัตตานี นราธิวาส เริ่มวิกฤติ หลังระดับน้ำในแม่น้ำสายหลักมีระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้น เอ่อล้นตลิ่งท่วมที่ลุ่มต่ำ กรมชลประทาน เตรียมพร้อมรับมือต่อเนื่อง

วันนี้ (22 ธ.ค.2559) นายทองเปลว กองจันทร์ รองอธิบดีกรมชลประทาน กล่าวว่า ขณะนี้ พื้นที่ภาคใต้ตอนล่างบริเวณจังหวัดยะลา ปัตตานี และนราธิวาส เกิดฝนตกหนัก โดยพื้นที่จ.นราธิวาส ปริมาณฝนสะสม 3 วัน ระหว่างวันที่ 19 – 21 ธ.ค.นี้ ที่อ.สุไหงโก-ลก วัดได้ 318 มิลลิเมตร และอ.สุไหงปาดี วัดได้ 296 มิลลิเมตร ส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำโก-ลกสูงขึ้นเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำในเขตเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก ระดับน้ำสูง  50 - 70 เซนติเมตร ระดับน้ำที่สะพานลันตู อ.สุไหงโก-ลก วัดได้ 8.81 เมตร ต่ำกว่าตลิ่ง 0.61 เซนติเมตร แนวโน้มระดับน้ำเพิ่มขึ้น แต่ยังไม่มีผลกระทบต่อพื้นที่เศรษฐกิจ หากไม่มีฝนตกหนักลงมาเพิ่มเติม สถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติ

สำหรับจังหวัดยะลา และปัตตานี มีแม่น้ำปัตตานีเป็นแม่น้ำสายหลักไหลผ่านทั้งสองจังหวัด และมีเขื่อนบางลาง ตั้งอยู่ในพื้นที่ตอนบนของลุ่มน้ำปัตตานี มีความจุ 1,454 ล้านลูกบาศก์เมตร ปัจจุบันมีปริมาณน้ำไหลลงอ่างฯ ประมาณ 11 ล้านลูกบาศก์เมตร มีปริมาณน้ำเก็บกัก 539 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 37 ของความจุอ่างฯ ยังสามารถรองรับปริมาณน้ำในฤดูฝนนี้ได้อีกกว่า 915ล้านลูกบาศก์เมตร

 

 


นายทองเปลว กล่าวว่า ส่วนสถานการณ์น้ำในแม่น้ำปัตตานี เมืองปัตตานี มีระดับน้ำ 2.17 เมตร ระดับน้ำสูงกว่าตลิ่ง 0.17 เมตร มีน้ำเอ่อท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำ แต่พื้นที่เศรษฐกิจยังไม่ได้รับผลกระทบ ทั้งนี้ บริเวณที่เกิดฝนตกหนัก ในเขตอ.มืองยะลาและอ.เมืองปัตตานี เป็นพื้นที่ที่ตั้งอยู่ใกล้กับทะเล น้ำจะไหลลงสู่ทะเลได้อย่างรวดเร็ว ทำให้ไม่มีผลกระทบต่อพื้นที่


ทั้งนี้ กรมชลประทาน ได้ให้ทุกโครงการชลประทานในพื้นที่ภาคใต้ ให้เฝ้าระวังติดตามสถานการณ์น้ำ และเตรียมความพร้อมรับมือกับสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะเครื่องสูบน้ำและเครื่องผลักดันน้ำ เครื่องจักร เครื่องมือต่างๆ ยังคงเตรียมพร้อมในแต่ละพื้นที่ เพื่อให้สามารถเร่งระบายน้ำได้อย่างทันต่อเหตุการณ์กรณีเกิดน้ำท่วมฉับพลัน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง