จัดสรรที่ทำกินให้ชาวบ้านหลังยึดคืนพื้นที่ 12,000 ไร่ รุกป่าสงวน จ.เพชรบูณ์

Logo Thai PBS
จัดสรรที่ทำกินให้ชาวบ้านหลังยึดคืนพื้นที่ 12,000 ไร่ รุกป่าสงวน จ.เพชรบูณ์
กรมป่าไม้จัดสรรพื้นที่ให้ชาวบ้าน ใน จ.เพชรบูรณ์ หลังยึดคืนพื้นที่จากนายทุนกว่า 12,000 ไร่ พบชาวบ้านถูกนายทุนเรียกเก็บค่าเช่าที่ดินไร่ละ 300 นาน 9 ปี พร้อมสร้างแนวร่วมให้ประชาชนร่วมอนุรักษ์ป่า

วานนี้ ( 7 ก.พ.) นายชีวะภาพ ชีวะธรรม หัวหน้าชุดปฏิบัติการพยัคฆ์ไพร ระบุว่า จากการตรวจพบการบุกรุกป่าสงวนในพื้นที่ป่าภูเปือย ภูขี้เถ้า บ้านซำบุ่น ต.ศิลา อ.หล่มเก่า จ.เพชรบูรณ์ พื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ลุ่มน้ำชั้น 1 และชั้น 2 และเป็นต้นน้ำป่าสัก จนนำไปสู่การยึดคืนพื้นที่จากนายทุนเมื่อปี 2558 รวมพื้นที่กว่า 12,795 ไร่ ภายหลังการยึดคืนพื้นที่นอกเหนือจากการดำเนินคดีกับนายทุน เจ้าหน้าที่ยังจัดสรรที่ดินทำกินให้กับประชาชนในพื้นที่ซึ่งอยู่ในเกณฑ์เป็นผู้ยากไร้สามารถปลูกทำกิน และปลูกป่าอนุรักษ์ไปพร้อมกันได้ และถือเป็นแนวร่วมที่สำคัญในการอนุรักษ์ป่าในแถบนี้

 

นายชีวะภาพ ชีวะธรรม หัวหน้าชุดปฏิบัติการพยัคฆ์ไพร

นายชีวะภาพ ชีวะธรรม หัวหน้าชุดปฏิบัติการพยัคฆ์ไพร

นายชีวะภาพ ชีวะธรรม หัวหน้าชุดปฏิบัติการพยัคฆ์ไพร



"ชาวบ้านที่ปลูกพืช ทำมาหากิน ครอบครองพื้นที่ไม่เกิน 25 ไร่ และมีที่ดินไม่เกิน 1 แปลง ถือว่าเข้าเกณฑ์ผู้ยากไร้ตามระเบียบของกรมป่าไม้ ซึ่งบางส่วนย้ายครอบครัวมาจากภาคใต้มาอยู่ จ.เพชรบูรณ์ ก็จะยังสามารถทำกินต่อไปได้แต่ห้ามขายที่เด็ดขาด และยังพบว่ามีชาวบ้านบางส่วนที่ต้องจ่ายค่าเช่าที่ให้กับนายทุนที่บุกรุกป่า ซึ่งการตรวจยึดคืนก็ช่วยชาวบ้านให้มีที่ทำกินและไม่ต้องจ่ายค่าเช่าให้กับนายทุนด้วย" นายชีวะภาพ ระบุ

 

เจ้าหน้าที่ยังคงพบการบุกรุกพื้นที่บริเวณเชิงเขาเพื่อปลูกยางพาราเพิ่ม

เจ้าหน้าที่ยังคงพบการบุกรุกพื้นที่บริเวณเชิงเขาเพื่อปลูกยางพาราเพิ่ม

เจ้าหน้าที่ยังคงพบการบุกรุกพื้นที่บริเวณเชิงเขาเพื่อปลูกยางพาราเพิ่ม

 

ขณะที่นายจงคล้าย วรพงศธร ผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมการปลูกป่า กรมป่าไม้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า การเข้าตรวจยึดคืนผินป่าในพื้นที่ จ.เพชรบูรณ์ และ จ.เลย ของหน่วยพยัคฆ์ไพร เมื่อตรวจยึดเสร็จเรียบร้อยแล้วทางกรมจะเริ่มดำเนินการฟื้นฟูป่า ด้วยการปลูกไม้ท้องถิ่น ป่าเบญจพรรณ ไม้สัก ประดู่ ซึ่งกระบวนการเหล่านี้จะดำเนินการควบคู่กันไปอาจต้องใช้เวลานานเพื่อป้องกันไม่ให้มีการบุกรุกป่าเพิ่มและฟื้นฟูป่าต้นน้ำไปพร้อมๆ กัน

ด้านนายสมศรี บุญสายยัง ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 4 ต.ศิลา อ.หล่มเก่า จ.เพชรบูรณ์ กล่าวว่า ลูกบ้านที่ถูกยึดคืนพื้นมีหลายสิบครัวเรือนก็รู้สึกกังวลว่าจะไม่มีที่ทำกิน แต่เมื่อเจ้าหน้าที่ยังคงให้สามารถทำกินในพื้นที่ต่อได้ก็เบาใจ และพร้อมที่จะทำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ ก่อนหน้านี้ชาวบ้านบางส่วนต้องจ่ายค่าเช่าที่ให้กับนายทุนในราคาไร่ละ 300 บาทต่อปีตั้งแต่ปี 2550 เฉลี่ยคนละกว่า 20-30 ไร่ เมื่อเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบและให้ชาวบ้านทำกินต่อไปได้ชาวบ้านก็สบายใจขึ้น

 

สภาพป่าเขาหัวโล้นพื้นที่ป่าภูเปือย ภูขี้เถ้า บ้านซำบุ่น ต.ศิลา อ.หล่มเก่า จ.เพชรบูรณ์ ที่อยู่ระหว่างการฟื้นฟู ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวเป็นป่าต้นน้ำของลุ่มน้ำป่าสัก

สภาพป่าเขาหัวโล้นพื้นที่ป่าภูเปือย ภูขี้เถ้า บ้านซำบุ่น ต.ศิลา อ.หล่มเก่า จ.เพชรบูรณ์ ที่อยู่ระหว่างการฟื้นฟู ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวเป็นป่าต้นน้ำของลุ่มน้ำป่าสัก

สภาพป่าเขาหัวโล้นพื้นที่ป่าภูเปือย ภูขี้เถ้า บ้านซำบุ่น ต.ศิลา อ.หล่มเก่า จ.เพชรบูรณ์ ที่อยู่ระหว่างการฟื้นฟู ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวเป็นป่าต้นน้ำของลุ่มน้ำป่าสัก

 

สอดคล้องกับ นายรักไทย หอมสิงทอง ผู้ใหญ่บ้านห้วยข่อย ม.7 ต.ศิลา จ.เพชรบูรณ์ กล่าวว่า ลูกบ้าน 11 ครัวเรือนได้รับผลกระทบจากการยึดคืนพื้นที่จากการปลูกข้าวโพดแต่เจ้าหน้าที่ยังคงให้สามารถปลูกพืชได้แต่ให้ปลูกป่าเสริมก็ทำให้ลูกบ้านยังคงทำมาหากินต่อไปได้

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง