วันนี้ (16 พ.ค.2560) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เป็นวันเปิดภาคเรียนที่ 1 ประจำปี 2560 ซึ่งจะมีนัก เรียน นิสิตนักศึกษา ผู้ปกครอง และประชาชนทั่วไป ใช้บริการรถโดยสารสาธารณะจำนวนมาก ขสมก.จึงได้เตรียมความพร้อมให้บริการรถโดยสารประจำทาง เพื่อรองรับความต้องการของประชาชนผู้ใช้บริการที่จะเพิ่มมากขึ้น ในช่วงเปิดภาคเรียนใหม่ ด้วยการเพิ่มจำนวนรถ เปลี่ยนกะของพนักงาน และเพิ่มเที่ยววิ่ง ในเส้นทางที่ผ่านโรงเรียน และสถานศึกษาต่างๆ
ส่วนด้านบุคลากรจัดอบรมพนักงานประจำรถ โดยกำชับให้ปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด รวมทั้งคอยดูแลการขึ้น-ลงรถของผู้โดยสารอย่างใกล้ชิด ขณะเดียวกันก็จัดสายตรวจพิเศษประจำจุด ณ บริเวณหน้าโรงเรียน ป้ายหยุดรถโดยสารที่มีผู้ใช้บริการหนาแน่น เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกด้านการจราจรและการขึ้น-ลงรถของผู้โดยสาร
ด้าน ดร.ชัยพฤกษ์ เสรีรักษ์ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ บอกว่า เท่าที่ดูในภาพรวมพบว่าโรง เรียนต่างๆมีการเตรียมพร้อมรับการเปิดเทอมเป็นอย่างดี โดยเฉพาะครู ซึ่งก่อนหน้านี้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน หรือสพฐ. สั่งการให้โรงเรียนเตรียมความพร้อม คอยดูแลทั้งการเดินทาง ความปลอดภัย รวมการทำความสะอาดห้องเรียน และสภาพแวดล้อมโดยรอบโรงเรียนให้เหมาะแก่การจัดการเรียนการสอน
ส่วนข้อห่วงใยของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่กำชับให้ดูแลเรื่องความปลอดภัยของนักเรียนในช่วงเปิดเทอมนั้น ก็ได้แจ้งไปยังทุกหน่วยงานที่มีสถานศึกษาในสังกัดแล้ว ซึ่งปีนี้กระทรวงศึกษาธิการได้เปิดให้โรงเรียนรับเด็กอนุบาล 3 ขวบ ตามที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560 จึงได้กำชับด้วยว่าขอให้ดูแลความปลอดภัย โดยเฉพาะรถรับ-ส่งนักเรียน ต้องตรวจสอบให้ถี่ถ้วนว่าไม่มีการหลงลืมเด็กไว้ในรถ
ทั้งนี้ปัญหาลืมเด็กไว้ในรถรับส่งนักเรียน พบบ่อยครั้ง โดยเฉพาะเด็กที่เล็กมาก ที่คนขับรถส่งนักเรียนมองไม่เห็นว่ายังมีเด็กหลงเหลืออยู่บนรถ แต่มาพบอีกที ก็กลายเป็นศพเสียชีวิตภายในรถตู้รับส่งนักเรียนแล้ว เนื่องจากขาดอากาศหายใจ ที่ต้องอยู่ภายในรถที่มีสภาพอากาศร้อนจัดเป็นเวลานานหลายชั่วโมง เหตุการณ์นี้ค่อนข้างสะเทือนใจแก่ผู้ปกครองและสังคม
โดยก่อนหน้านี้ทั้งตำรวจนครบาล และ ตำรวจภูมิภาค ก็ได้มีการจัดกิจกรรมให้ได้ตระหนักถึงภัยนี้ ในชื่อโครงการ"อย่าลืมหนูไว้ในรถ "เพื่อเป็นการเตือนสติคุณพ่อ คุณแม่ และโชเฟอร์ที่รับส่งเด็กนักเรียนไม่ให้ลืมเด็กไว้ในรถซึ่งมาสู่เหตุการณ์ความสูญเสีย