"อภิสิทธิ์" แจงผลงาน 2 ปีกว่าทุนสำรองกว่า 1.8 แสนล้านเหรียญ-เอื้อรัฐบาลใหม่บริหารประเทศ

การเมือง
4 ส.ค. 54
16:16
41
Logo Thai PBS
"อภิสิทธิ์" แจงผลงาน 2 ปีกว่าทุนสำรองกว่า 1.8 แสนล้านเหรียญ-เอื้อรัฐบาลใหม่บริหารประเทศ

รักษาการณ์นายกรัฐมนตรีออกแถลงการณ์ผลงานตลอด 2 ปีกว่าที่ผ่านมาทำให้เศรษฐกิจไทยเข้มแข็งมีทุนสำรองกว่า 1.8 แสนล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งเอื้อต่อรัฐบาลชุดใหม่ที่จะเข้ามาบริหารประเทศ พร้อมฝากสานงานพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพสมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี อย่างสมพระเกียรติต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อ 20.30 น.ที่ผ่านมานายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ รักษาการณ์นายกรัฐมนตรีได้ออกโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย ในชื่อรายการ "รายงานสถานะประเทศ ส่งมอบงานบริหารประเทศ" โดยมีใจความตอนหนึ่งว่า ขณะนี้ได้มีการปิดสมัยประชุมสภาผู้แทนราษฎร และ ได้มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งประธานสภาผู้แทนราษฎร และรองประธานสภาผู้แทนราษฎร เรียบร้อยแล้ว และในวันพรุ่งนี้ ( 5 ส.ค.) จะมีการประชุมสภาเพื่อเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่เพื่อเข้ามารับตำแหน่ง และจัดตั้งคณะรัฐมนตรี ในการบริหารแผ่นดินในนามของรัฐบาลใหม่ต่อไป

ดังนั้นขอเรียนชี้แจงการทำงานตลอด 2 ปีกว่าที่ผ่านมาว่า สถานะทางเศรษฐกิจโดยเฉพาะสถานะการเงินการคลังมีความมั่นคงอย่างมากเพราะประเทศมีเงินทุนสำรองกว่า 180,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ สูงเป็นอันดับที่ 13 ของโลก นอกจากนี้ยังสามารถจัดเก็บภาษีได้เกินเป้าใน 3 ไตรมาสแรกกว่า 200,000 ล้านบาท ทำให้มีเงินคงคลังกว่า 300,000 ล้านบาท ขณะที่หนี้สาธารณะลดลงร้อยละ 40 เท่านั้น

นอกจากนี้การเปลี่ยนผ่านได้มีการเตรียมการในการส่งมอบงานเพื่อให้รัฐบาลชุดใหม่เข้าบริหารราชการแผ่นดินได้อย่างราบรื่น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในช่วงของการเปลี่ยนผ่านที่มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อพี่น้องประชาชน ตั้งแต่การเตรียมการพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี ซึ่งรัฐบาลได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการ และ มีการได้เตรียมงานไว้ชั้นหนึ่งแล้ว และจะให้รัฐบาลชุดใหม่ได้เข้ามาสานต่อ เพื่อจัดงานพระราชพิธีได้อย่างสมพระเกียรติต่อไป

รวมถึงเรื่องภัยพิบัติไม่ว่าจะเป็นภาคเหนือตอนล่าง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งรัฐบาลได้เตรียมข้อมูลต่าง ๆ เพื่อที่จะติดตามเฝ้าระวัง ในช่วงของการเปลี่ยนผ่านรัฐบาลไว้แล้ว

"การส่งมอบการบริหารราชการแผ่นดินในครั้งนี้ สถานะทางด้านเศรษฐกิจ สังคม และการเมืองของประเทศนั้น เอื้อต่อการที่จะให้รัฐบาลชุดใหม่ สามารถเข้ามาที่จะแก้ไขปัญหาต่างๆ ซึ่งเป็นปัญหาของพี่น้องประชาชน และประเทศชาติได้เป็นอย่างดี" นายกรัฐมนตรี กล่าวยืนยัน

ส่วนเรื่องปัญหาไทย-กัมพูชานั้นมีเรื่องที่คั่งค้างอยู่เป็นเรื่องที่ทางกัมพูชาได้ดำเนินการฟ้องร้องต่อศาลโลก เรื่องขอตีความคำวินิจฉัยของศาลโลกเมื่อปี 2505 ยังเป็นกระบวนการที่เพิ่งเริ่มต้น โดยหวังว่ารัฐบาลชุดต่อไปจะได้ดำเนินการต่อสู้คดีให้สามารถที่จะปกป้องเพื่อพิทักษ์รักษาผลประโยชน์ของประเทศไทยได้อย่างสมบูรณ์
 


ข่าวที่เกี่ยวข้อง