กรมสรรพากรยันไม่อุทธรณ์ภาษีโอ๊ค-เอมไม่เกี่ยวการเมือง

กรมสรรพากรยืนยันการไม่อุทธรณ์เก็บภาษีหุ้นจากนายพานทองแท้ ชินวัตร และ น.ส.พิณทองทา ชินวัตร และคืนทรัพย์สินที่อายัดไว้ ในคดีโอนหุ้นบริษัทชินคอร์ป ผ่านทางบริษัทแอมเพิลริช อินเวสเมนต์ นอกตลาดหลักทรัพย์เพื่อเลี่ยงภาษีไม่เกี่ยวข้องกับการเมือง หรือเปลี่ยนขั้วรัฐบาลใหม่ แต่ยึดตามคำพิพากษา

นายสาธิต รังคสิริ อธิบดีกรมสรรพากร เปิดเผยว่า ไม่ทราบเรื่องที่กรมสรรพากรไม่ยื่นอุธรณ์กรณีเก็บภาษีหุ้นจากนายพานทองแท้ ชินวัตร และ น.ส.พิณทองทา ชินวัตร คนละ 5,675 ล้านบาท หรือ รวมกันประมาณ 12,000 ล้านบาท เนื่องจากได้มอบหมายให้รองอธิบดีกรมสรรพากรเป็นผู้ดูแล

ด้านนางจิตรมณี สุวรรณพลู รองอธิบดีกรมสรรพากร ในฐานะโฆษกกรมสรรพากร กล่าวว่า กรมสรรพากรไม่ยื่นอุธรณ์ เนื่องจากยึดตามคำพิพากษาศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองที่ตัดสินว่า พ.ต.ท.ทักษิณ และคุณหญิงพจมาน ชินวัตร เป็นเจ้าของหุ้นที่แท้จริง จึงต้องคืนเงินสด 200 ล้านบาท และหลักทรัพย์ที่ดินอีก 1,000 ล้านบาท ที่อายัดไว้ คืนให้กับนายพานทองแท้ และ น.ส.พิณทองทา มิเช่นนั้นกรมสรรพากรอาจจะถูกฟ้องได้ ทั้งนี้กรมสรรพากรได้ขอความเห็นจากกระทรวงการคลังแล้ว พร้อมยืนยันว่าไม่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนขั้วรัฐบาลใหม่

นายแก้วสรร อติโพธิ อดีตคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ หรือ คตส.กล่าวว่า การไม่ยื่นอุทธรณ์ของกรมสรรพากร ไม่น่าจะถูกต้อง แต่หากไม่ยื่นควรเรียกเก็บภาษีจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ทันที หรือหากคิดว่าเรียกเก็บภาษีจากอดีตนายกรัฐมนตรีไม่ได้ ก็ต้องอุธรณ์เก็บภาษีจากบุตร และธิดาทั้ง 2 คนให้ถึงที่สุด เพื่อไม่ให้รัฐเกิดความเสียหาย หากเก็บไม่ได้ผู้บริหารกระทรวงการคลัง และกรมสรรพากร จะมีความผิดฐานละเว้นปฏิบัติหน้าที่ตามมาตรา 157