นายกฯ กำชับผู้ว่าฯติดตามสถานการณ์น้ำท่วมอย่างใกล้ชิด

นายกรัฐมนตรีสั่งตั้งศูนย์เตรียมรับและเตรียมพร้อมกับสถานการณ์อุทกภัยแบบบูรณาการ หรือ วันสต็อปเซอร์วิส ย้ำให้แบ่งกลุ่มทำงานอย่างชัดเจน โดยเฉพาะในพื้นที่ที่ยังคงต้องเผชิญกับปัญหา

นอกจากการรายงานสรุปสถานการณ์อุทกภัยวาตภัย และ ดินถล่ม รวมถึงผลการคาดหมายสภาพอากาศ สถานการณ์น้ำ การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ เพื่อการป้องกันและแก้ไขปัญหาแล้ว น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ยังได้ประชุมผ่านระบบทางไกล หรือ วิดีโอคอนเฟอเรนซ์สอบถามสถานการณ์และปัญหาอุทกภัยจากผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัย นครสวรรค์ และ พระนครศรีอยุธยา ด้วยตัวเอง

โดยนายกรัฐมนตรี เน้นย้ำให้ทุกหน่วยงานร่วมแก้ปัญหาแบบบูรณาการและทำงานแบบรวมศูนย์ เพื่อเร่งแก้ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนโดยเร็ว พร้อมสั่งการให้กรมชลประทานดูแลเตรียมหาพื้นที่รับน้ำ หากเกิดปัญหาฝนตกหนักและส่งผลให้ปริมาณน้ำเพิ่ม แม้ขณะนี้จะสามารถควบคุมสถานการณ์น้ำได้ระดับหนึ่งก็ตาม ได้สั่งการให้ตั้งศูนย์วันสต็อปเซอร์วิส หรือ บูรณาการ เพื่อแก้ปัญหาอย่างเร่งด่วนและรวดเร็ว พร้อมกำชับให้แบ่งกลุ่มการทำงานออกเป็น 4 กลุ่ม คือ เน้นการเตรียมพร้อมแก้ปัญหา การตอบสนองการทำงานอย่างรวดเร็ว การดูแลเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ และ การป้องกันด้วยการเตือนภัย

ขณะเดียวกันนายกรัฐมนตรี ย้ำให้ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ เร่งหาทางออกกรณีโครงการก่อสร้างแก่งเสือเต้น จังหวัดแพร่ เนื่องจากสถานการณ์ในพื้นที่มีทั้งกลุ่มประชาชนที่สนับสนุนโครงการและคัดค้านโครงการ จึงหวั่นเกรงจะเกิดความขัดแย้งและเผชิญหน้า

ขณะที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยรายงานสถานการณ์อุทกภัยล่าสุดว่า จังหวัดที่ถูกประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติฉุกเฉิน รวม 28 จังหวัด ขณะนี้สถานการณ์คลี่คลายแล้ว 16 จังหวัด แต่ยังมีอีก 12 จังหวัด ที่ยังต้องเผชิญกับสถานการณ์น้ำท่วม โดยอยู่ในพื้นที่ภาคเหนือ ตะวันออกเฉียงเหนือและภาคกลาง เช่น จังหวัดสุโขทัย พิจิตรและพระนครศรีอยุธยา