สภาพคล่องแบงก์จากเดือน ก.ค.54 เพิ่มขึ้น การขยายตัวของเงินฝากและตั๋วแลกเงิน ส่วนสินเชื่อขยับลง

เศรษฐกิจ
27 ส.ค. 54
15:55
12
Logo Thai PBS
สภาพคล่องแบงก์จากเดือน ก.ค.54 เพิ่มขึ้น การขยายตัวของเงินฝากและตั๋วแลกเงิน ส่วนสินเชื่อขยับลง

สิ้นเดือนกรกฎาคม 2554 ยอดเงินให้สินเชื่อสุทธิ (หักค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญ) ของ 14 ธนาคารพาณิชย์ไทย มีจำนวน 6.94 ล้านล้านบาท ลดลง 6.84 หมื่นล้านบาทจากสิ้นเดือนก่อน

ขณะที่ ยอดเงินฝาก มีจำนวน 7.06 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.95 หมื่นล้านบาท ส่วนตราสารหนี้ที่ออกและเงินกู้ยืม (ซึ่งมีตั๋วแลกเงินเป็นหนึ่งในองค์ประกอบ) เพิ่มขึ้น 8.40 หมื่นล้านบาท มาที่ 1.50 ล้านล้านบาท ส่งผลให้สินทรัพย์สภาพคล่องตามความหมายกว้าง (รวมเงินสด เงินลงทุนสุทธิในตลาดเงินระยะสั้น เงินลงทุนสุทธิในหลักทรัพย์ รวมถึงเงินลงทุนในบริษัทย่อยและบริษัทร่วมสุทธิ) ปรับเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับเดือนมิถุนายน 2554 

สำหรับช่วงไตรมาส 3/2554 นี้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินว่า ภาพรวมสินเชื่อน่าจะยังสามารถรักษาโมเมนตัมการขยายตัวไว้ได้ โดยมีแรงหนุนจากการขยายตัวทางเศรษฐกิจในประเทศยังคงเป็นไปได้อย่างต่อเนื่อง และปัจจัยด้านอุปทานจากการขยายสินเชื่อเพื่อให้บรรลุเป้าหมายสิ้นปีของแต่ละธนาคาร

ขณะที่ ภาพการแข่งขันระดมเงินออมระหว่างธนาคารพาณิชย์ด้วยกันเองและกับคู่แข่งอื่นๆ คงจะเข้มข้นต่อเนื่องจากครึ่งปีแรก อันเป็นผลมาจากการลดวงเงินคุ้มครองเงินฝากซึ่งคงมีผลทางจิตวิทยาให้ผู้ฝากเงินบริหารเงินออมระหว่างธนาคารพาณิชย์และแหล่งเงินออมอื่นๆ มากขึ้น ขณะเดียวกัน ปัจจัยดูดซับสภาพคล่องออกจากระบบ ไม่ว่าจะเป็นการขยายตัวของสินเชื่อ การออกพันธบัตรของธนาคารแห่งประเทศไทยและภาครัฐบาลในช่วงเดือนสิงหาคม – กันยายน ตลอดจนการระดมเงินออมของสถาบันการเงินเฉพาะกิจเพื่อรองรับการดำเนินนโยบายของภาครัฐ  คงจะส่งผลให้ธนาคารพาณิชย์ออกผลิตภัณฑ์เงินออมใหม่ๆ และแข่งขันด้านราคาของเงินฝากในบางช่วงเวลา เพื่อรักษาฐานลูกค้าและระดมทุนให้เพียงพอต่อฐานะสภาพคล่องของแต่ละธนาคาร ซึ่งท้ายที่สุดแล้ว การเติบโตของเงินฝากและตั๋วแลกเงินน่าจะช่วยหนุนให้สภาพคล่องของธนาคารพาณิชย์ไทยในช่วงไตรมาส 3/2554 มีระดับค่อนข้างทรงตัวหรือไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก เมื่อเทียบกับ ณ สิ้นไตรมาส 2/2554
 
อย่างไรก็ดี คงต้องติดตามพัฒนาการของเศรษฐกิจหลัก โดยเฉพาะสหรัฐฯและยุโรป ซึ่งหากทรุดลงไปสู่การชะลอตัวอย่างต่อเนื่อง จนเพิ่มความเป็นไปได้ต่อการเกิดภาวะถดถอยซ้ำสองแล้ว ย่อมจะมีผลสืบเนื่องมาถึงภาวะเศรษฐกิจและระบบการเงินของไทย ตลอดจนการดำเนินนโยบายการเงินของธนาคารแห่งประเทศไทย อย่างยากที่จะหลีกเลี่ยง และคงมีผลให้ภาพการแข่งขันระดมเงินฝาก แนวโน้มการเติบโตของสินเชื่อ รวมถึงสภาพคล่องและการดำเนินงานของธนาคารพาณิชย์ไทยเป็นไปอย่างระมัดระวังขึ้น

ซึ่งท้ายที่สุดแล้ว ภาคธุรกิจและครัวเรือน รวมถึงผู้ออมเอง ก็คงจะต้องเตรียมวางแผน เพื่อรับมือกับสภาวะผันผวนในระยะข้างหน้า อันน่าจะช่วยให้การดำเนินธุรกิจและการจัดสรรเงินออมเป็นไปได้อย่างเหมาะสมและมีประสิทธิภาพ
 


ข่าวที่เกี่ยวข้อง