หนุนกินนมแม่ 6 เดือน สร้างภูมิคุ้มกันที่ดีทั้งชีวิต

สังคม
5 ก.ย. 65
16:06
236
Logo Thai PBS
หนุนกินนมแม่ 6 เดือน สร้างภูมิคุ้มกันที่ดีทั้งชีวิต
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
หนุนแม่ให้นมลูก 6 เดือน ระบุสร้างภูมิคุ้มกันที่ดีส่งผลต่อเด็กไปตลอดชีวิต เสริมสร้างไอคิว-อีคิว มากกว่าเด็กที่ไม่ได้กิน เลิกความเชื่อกินนมแล้วต้องกินน้ำล้างปาก เพราะในนมมีน้ำอยู่แล้ว

มูลนิธิศูนย์นมแม่แห่งประเทศไทย ร่วมกับ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ(สสส.) เปิดเวทีเสวนาออนไลน์ “6 เดือนมหัศจรรย์ นมแม่ต้องห้ามพลาด ให้ทารกได้รับนมแม่ สร้างภูมิคุ้มกันที่ดีส่งผลไปทั้งชีวิต”

ตัวเลขแม่คนไทยยังเลี้ยงลูกด้วยนม ต่ำกว่ามาตรฐานโลก เพราะแม่-ครอบครัว-สังคม ขาดความรู้ความเข้าใจ ผนึกกำลังเครือข่ายสนับสนุนการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ ตั้งเป้าเด็กไทยมากกว่าร้อยละ 50 ต้องได้รับนมแม่อย่างเดียวอย่างน้อย 6 เดือน ไม่ต้องเสริมน้ำหรืออาหารอื่น

พญ.ศิริพร กัญชนะ ประธานมูลนิธิศูนย์นมแม่แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ข้อมูลการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียว 6 เดือนของไทยลดลง จากการสำรวจเมื่อปี 2559 จากร้อยละ 24 เหลือเพียงร้อยละ 14 ในปี 2562 และจนถึงปัจจุบันมีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง

โดยประชาคมได้ตั้งเป้าหมายการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ 6 เดือน ไว้สูงถึงร้อยละ 50 และชักชวนทุกภาคส่วนร่วมมือกันทำเรื่องนี้ เพื่อช่วยกันสร้างพื้นฐานที่มั่นคงให้กับประเทศ

เด็กทารกควรได้รับน้ำนมอย่างเดียวอย่างน้อย 6 เดือน โดยไม่จำเป็นต้องกินน้ำและอาหารเสริม เพราะในนมแม่มีทั้งสารอาหารที่เพียงพอ และมีภูมิคุ้มกันต่าง ๆ ที่ส่งผ่านจากแม่ไปสู่ลูกด้วย

นมแม่เป็น Super Food เด็กที่กินนมแม่ไม่จำเป็นต้องให้น้ำ เพราะในนมแม่มีน้ำอยู่ถึงร้อยละ 83 ที่เหลือเป็นสารอาหารที่มีประโยชน์ ในนมแม่มีสารอาหารที่มีประโยชน์มากกว่าสารสังเคราะห์ ที่ใส่ลงไปในนมผสมนับไม่ถ้วน

ปัจจุบันประเทศไทยมีทารกคลอดลดลงเหลือเพียงปีละ 5 แสนคนเท่านั้น จึงอยากชวนเชิญให้ช่วยกันสนับสนุนการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ เพื่อให้ทารกมีสุขภาพที่ดี เติบโตขึ้นเป็นพลเมืองมีคุณภาพ

นพ.ไพโรจน์ เสาน่วม ผู้ช่วยผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และรักษาการผู้อำนวยการสำนักสร้างเสริมวิถีชีวิตสุขภาวะ กล่าวว่า การให้เด็กได้รับนมแม่อย่างเดียว 6 เดือน มีประโยชน์ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว

ถ้าดูในรายละเอียดจะพบว่า ยังมีแม่อีกกลุ่มหนึ่งที่ให้ลูกกินทั้งนมแม่และน้ำ ดังนั้นถ้าเราร่วมกันให้ความรู้กับแม่กลุ่มนี้ได้ ประเทศไทยก็จะมีโอกาสทำได้ตามเป้าหมายคือ นมแม่อย่างเดียว 6 เดือน ร้อยละ 50

การได้รับนมแม่และการเลี้ยงดูที่เหมาะสมอย่างมีคุณภาพ เป็นรากฐานที่จะพัฒนาให้เด็กไทยมีสุขภาพที่ดี แข็งแรง พัฒนาการสมวัย และส่งผลดี รอบด้าน

ดังนั้นเราต้องสื่อสารภายใต้ข้อมูลวิชาการ และเร่งให้องค์ความรู้ต่าง ๆ เหล่านี้เข้าถึงแม่และครอบครัว ซึ่งการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ สามารถทำได้จริง และยืนยันว่านมแม่ดีที่สุด

พญ.สุดาทิพย์ โฆสิตะมงคล กุมารแพทย์ทารกแรกเกิด และกรรมการวิชาการมูลนิธิศูนย์นมแม่แห่งประเทศไทย กล่าวว่า นมแม่ไม่เพียงแค่กินได้จนถึง 6 เดือน แต่สามารถกินได้ไปจนถึง 2 ปี นมแม่เป็น Super Food เป็นวัคซีนและของขวัญชิ้นแรกที่ดีที่สุด ที่แม่จะให้กับลูกได้

นมแม่มีภูมิคุ้มกันทำให้ลูกแข็งแรงไม่ป่วยบ่อย มีโอกาสติดเชื้อและเข้าโรงพยาบาลน้อยกว่า ลดโอกาสเกิดโรคไม่ติดต่อเรื้อรังเช่น เบาหวาน โรคอ้วนได้ในอนาคต

เด็กที่กินนมแม่จะมีไอคิวและอีคิวที่มากกว่าเด็กที่กินนมผสม ในนมแม่มีจุลินทรีย์สุขภาพที่สามารถช่วยกำหนดสุขภาพของเราได้ในระยะยาวซึ่งนมผสมไม่มี

สำหรับนมแม่อย่างเดียว 6 เดือน ไม่ใช่เรื่องของแม่เพียงคนเดียว แต่เป็นเรื่องที่ทุกภาคส่วนในสังคมจะต้องช่วยกันส่งต่อความมั่นใจว่านมแม่ดีที่สุดในโลก และร่วมกันสร้างระบบการดูแลช่วยเหลือส่งต่อจากที่โรงพยาบาล บ้าน ชุมชน ก็จะสามารถช่วยให้แม่สามารถเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ได้สำเร็จ

บางคนอาจเห็นว่า นมแม่ดูใสๆ ไม่ขาวข้น แต่อยากให้มั่นใจว่า ในนมแม่นั้นพอเหมาะ พอเพียง เหมาะสม สำหรับลูกของเรา โดยไม่ต้องให้น้ำ ให้อาหารเสริม ขอให้เชื่อมั่นในนมแม่อย่างเดียว 6 เดือน

ดร.สกุลศรี ศรีสารคาม ที่เลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียวอย่างน้อย 6 เดือนในช่วงสถานการณ์ระบาดของโควิด-19 กล่าวว่า ถ้าเรามีความตั้งใจ ไม่ว่าจะมีโควิด-19 หรือไม่มีทุกคนก็สามารถทำได้ เพราะการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ เป็นเรื่องของแม่กับลูก

แต่สิ่งสำคัญคือ ครอบครัวต้องสนับสนุน และต้องมีระบบที่คอยช่วยเหลือให้แม่สามารถแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นได้ ช่วง 2 สัปดาห์แรก มีความสำคัญมากที่สุด ถ้าผ่านอุปสรรคและปัญหาตรงนี้ไปได้แล้วก็จะไม่ยาก

สิ่งสำคัญก็คือจะต้องมีระบบที่เตรียมความพร้อมให้แม่ตั้งแต่การฝากครรภ์และมีคนที่ช่วยให้คำแนะนำในการแก้ปัญหาหลังคลอด ซึ่งปัจจุบันก็มีคลินิกนมแม่คอยให้คำปรึกษาอยู่หลายแห่ง ที่สามารถช่วยให้แม่สามารถเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ได้

แต่สำหรับแม่ที่ต้องกลับไปทำงานหลังลาคลอดครบ 3 เดือน ที่ทำงานและเพื่อนร่วมงานก็ต้องมีความรู้ความเข้าและสนับสนุน เพราะต้องมีมุมนมแม่ มีที่ปั๊มนม และมีตู้เย็นสำหรับเก็บนม อยากให้แม่ทุกคนไม่ต้องกลัวเรื่องการให้นมลูกนอกสถานที่ และอยากเห็นทุกคนในสังคมเข้าใจเรื่องของนมแม่และมองให้เป็นเรื่องปกติ

แท็กที่เกี่ยวข้อง:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง