ด่วน! บุกทำร้าย “ศรีสุวรรณ” ขณะร้องเรียนตรวจสอบ “โน้ส อุดม” เดี่ยว 13

การเมือง
18 ต.ค. 65
10:56
3,762
Logo Thai PBS
ด่วน! บุกทำร้าย “ศรีสุวรรณ” ขณะร้องเรียนตรวจสอบ “โน้ส อุดม” เดี่ยว 13
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
หนุ่มใหญ่ บุกทำร้าย “ศรีสุวรรณ” หลังเข้าแจ้ง ปอท.ขอให้ตรวจสอบเดี่ยวไมโครโฟน-13 เข้าข่ายยุยงส่งเสริมให้ผู้อื่นกระทำความผิดหรือไม่

วันนี้ (18 ต.ค.2565) เวลา 10.30 น. ที่ บก.ปอท. นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เดินทางมาพบพนักงานสอบสวน กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) เพื่อขอให้ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ตามครรลองของกฎหมาย

กรณีมีบุคคลทอล์กโชว์เดี่ยวไมโครโฟน-13 ซึ่งเผยแพร่ในสื่อสังคมออนไลน์ มีการใช้ถ้อยคำ บางคำพูดอันอาจมีลักษณะส่งเสริมให้บุคคลร่วมชุมนุมสาธารณะที่ผิดกฎหมาย อาจขัดต่อความมั่นคงของรัฐ และหรือละเมิดสิทธิและเสรีภาพของบุคคลอื่น และหรือขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน

เข้าข่ายความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ประกอบ พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 แก้ไขเพิ่มเติม ฉบับที่ 2 พ.ศ.2560 หรือไม่ อย่างไร

ทั้งนี้ บทพูดของการโชว์เดี่ยวไมโครโฟนดังกล่าว มีบางคำพูด เช่น “วันนี้รถติดเยอะหน่อย มีม็อบไล่คนที่เราอยากจะไล่เขา ก็ให้อภัยเขาไปนะครับ ถือว่าเขาทำงานแทนเรา” นั้น จะสื่อความหมายไปอย่างอื่นมิได้ นอกเสียจากการพูดเพื่อที่จะสื่อหรือโฆษณาให้ผู้ฟังหรือผู้ชม ได้เข้าใจตรงกันว่า มีเจตนาหรือจงใจที่จะให้ทุกคนที่รับฟัง และรับชมให้อภัยกลุ่มผู้ที่ออกมาชุมนุมสาธารณะ ที่เกิดขึ้นหลายๆ ครั้งเมื่อช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมานั้น “ทำงานแทนเรา” นั่นเอง

โดยที่การชุมนุมเหล่านั้นล้วนผิดกฎหมาย ฝ่าฝืนข้อกำหนดใน มาตรา 9 แห่ง พ.ร.ก.ฉุกเฉิน 2548 และมีการสอดไส้การชุมนุมเป็นเรื่องการยกเลิก ป.อ.112 และการปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ มิใช่การชุมนุมเพื่อขับไล่ผู้นำรัฐบาลแต่อย่างใดไม่

กรณีดังกล่าวจึงไม่ใช่เป็นเรื่องส่วนตัวของบุคคลใดบุคคลหนึ่งแต่อย่างใด หากแต่อาจเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับความผิดต่อแผ่นดิน อาจกระทบต่อความมั่นคง และอาจขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน

อันเข้าข่ายความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 84 มาตรา 85 และหรือ มาตรา 87 ประกอบ มาตรา 14 แห่ง พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ 2550 แก้ไขเพิ่มเติม ฉบับที่ 2 พ.ศ.2560 ต้องระวางโทษกึ่งหนึ่งของโทษที่กำหนดไว้สำหรับความผิดนั้นด้วย และหรือต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปีหรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ด้วยเหตุดังกล่าว สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย จึงต้องนำความพร้อมพยานหลักฐานมาแจ้งต่อ บก.ปอท. ให้ใช้อำนาจตามกฎหมายในการตรวจสอบ สอบสวน กรณีดังกล่าวว่าเข้าข่ายความผิดอาญาต่อแผ่นดินหรือไม่ หากพบว่าเป็นความผิดให้ดำเนินการตามครรลองของกฎหมายต่อไป

ข่าวที่เกี่ยวข้อง