ยอดผู้เสียชีวิตจากพายุ 
ภาพจากมุมสูงเผยให้เห็นความเสียหายที่เกิดจากพายุไต้ฝุ่นตาลัส ซึ่งพัดขึ้นฝั่งเมื่อวันเสาร์ทางบริเวณตะวันตกของประเทศญี่ปุ่น ทำให้เกิดฝนตกหนักจนดินอุ้มน้ำไม่ไหว จึงเกิดเหตุดินถล่มทับอาคารบ้านเรือน และถนนในหลายพื้นที่ รวมทั้งเกิดน้ำท่วม สะพานรถไฟขาด โดยพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายหนัก คือพื้นที่จังหวัดวากายาหมะ ขณะที่ทางการรายงานยอดผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 31 คน และสูญหายอีกราว 52 คน ถือเป็นพายุที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตมากที่สุดในรอบ 7 ปีของญี่ปุ่น
ขณะที่เจ้าหน้าที่กู้ภัยยังคงเดินหน้าค้นหาผู้รอดชีวิต และเข้าเก็บกวาดอาคารย้านเรือน แต่ถนนที่ถูกตัดขาด และกระแสไฟฟ้าที่ขัดข้อง ทำให้การช่วยเหลือค่อนข้างยาก นอกจากนี้ ความเสี่ยงที่จะเกิดดินถล่มเพิ่มขึ้นส่งผลกระทบต่อความพยายามในการช่วยเหลือผู้รอดชีวิต
พายุไต้ฝุ่น "ตาลัส" ได้อ่อนกำลังลงเป็นพายุโซนร้อนและเคลื่อนตัวออกสู่ทะเลญี่ปุ่นเมื่อวานนี้ ซึ่งตอนที่พายุพัดเข้าญี่ปุ่นเมื่อวันเสาร์ ทำให้เกิดฝนตกหนักหลายวันติดต่อกันวัดปริมาณน้ำฝนได้ถึง 1,800 มิลลิเมตร ที่หมู่บ้านแห่งหนึ่งในจังหวัดนารา ซึ่งมากเป็นประวัติการณ์และมากกว่าปริมาณน้ำฝนที่ตกเฉลี่ยทั้งปีในกรุงโตเกียว
พายุโซนร้อนลีขึ้นฝั่งรัฐหลุยเซียน่าแล้วเมื่อวานนี้ ส่งผลให้พื้นที่รัฐหลุยเซียน่า มิสซิสซิปปี้ และอัลบาม่า เกิดฝนตกหนักวัดปริมาณน้ำฝนได้ตั้งแต่ 150-250 มิลลิเมตร และคลื่นลมแรง บ้านที่ตั้งอยู่บริเวณชายหาดถูกน้ำท่วม ท่ามกลางความกังวลว่าอิทธิพลของพายุจะทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันระหว่างที่พัดเข้าไปในแผ่นดิน นอกจากนี้ ยังมีรายงานการเกิดทอร์นาโดตามพื้นที่ชายฝั่งของทั้ง 3 รัฐ
นอกจากการรับมือกับพายุโซนร้อนลีแล้วตอนนี้ศูนย์เฮอร์ริเคนแห่งชาติสหรัฐ ยังจับตาการเคลื่อนตัวของเฮอรืริเคนคาเทียในมหาสมุทรแอตแลนติค ที่เพิ่มความรุนแรงขึ้นเป็นเฮอร์ริเคนระดับ 2 และมีแนวโน้มจะเพิ่มความรุนแรงมากขึ้นอย่างต่อเนื่องจนเป็นเฮอร์ริเคนลูกสำคัญ และแม้ว่าในปัจจุบันยังไม่มีคำเตือนว่าเฮอร์ริเคนจะส่งผลกระทบกับแผ่นดินใหญ่สหรัฐ แต่มีความเป็นไปได้ที่อิทธิพลของพายุ จะทำให้มีคลื่นขนาดใหญ่ซัดเข้าฝั่งตะวันออกในระยะ 1-2 วันนี้