"ดีเอสไอ" รับคดี "ตู้ห่าว" เป็นคดีพิเศษ - อายัดทรัพย์เพิ่ม

อาชญากรรม
15 ธ.ค. 65
11:42
356
Logo Thai PBS
"ดีเอสไอ" รับคดี "ตู้ห่าว" เป็นคดีพิเศษ - อายัดทรัพย์เพิ่ม
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
ดีเอสไอ รับคดีฟอกเงินทางอาญา ของนายตู้ห่าว มาไว้สอบสวนเป็นคดีพิเศษ หลังพบว่าเข้าเงื่อนไขรับเป็นคดีพิเศษตามบัญชีท้าย ส่วนในคดีอาญายังอยู่ในการสอบสวนของตำรวจ

วันนี้ (15 ธ.ค.2565) นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม พร้อมด้วยตัวแทนของกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ร่วมกันเปิดเผยถึงการดำเนินคดีกับนายชัยณัฐร์ กรณ์ชายานันท์ หรือ ตู้ห่าว และเครือข่ายกลุ่มชาวจีนทำธุรกิจผิดกฎหมายในไทย

 

โดยหลังจากที่นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ได้ร้องเรียนผ่านกระทรวงยุติธรรมให้รับคดีนี้ไว้สอบสวนเป็นคดีพิเศษ เนื่องจากพบว่า การกระทำความผิดของผู้ต้องหาทำเป็นเครือข่าย และมีความเสียหายเป็นจำนวนมาก และได้นำเข้าคณะกรรมการกลั่นกรองคดีพิเศษแล้วเห็นว่า รับคดีฟอกเงินทางอาญาไว้สอบสวนเป็นคดีพิเศษ เลขที่ 314/2565 เนื่องจากอยู่ในอำนาจของดีเอสไอที่รับคดีไว้สอบสวนได้ตามบัญชีท้าย พ.ร.บ.การสอบสวนคดีพิเศษ โดยที่ไม่ต้องผ่านคณะกรรมการคดีพิเศษ

 

พ..ต.ต.ยุทธนา แพรดำ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เปิดเผยว่า การสอบสวนคดีพิเศษนี้เป็นเพียงในข้อหาฟอกเงินทางอาญาเท่านั้น ส่วนคดีอาญาและองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติที่อัยการสูงสุดตั้งคณะทำงานขึ้นมาใหม่นั้น ยังอยู่ในอำนาจของอัยการและตำรวจ

ส่วนจะมีการโอนสำนวนคดีมาสอบสวนเป็นคดีพิเศษหรือไม่  รมว.ยุติธรรม เปิดเผยว่า ยังให้ส่วนที่เกี่ยวข้องดำเนินคดีไปตามปกติ ส่วนจะโอนมาหรือไม่นั้นหากมีความจำเป็นก็ต้องโอนมา

 

ส่วนการสอบสวนคดีพิเศษ หลังจากนี้ดีเอสไอก็จะมีอำนาจในการใช้เครื่องมือพิเศษในการตรวจสอบเส้นทางการเงิน ความเกี่ยวพันกับบุคคลอื่น รวมทั้งเรียกสอบปากคำผู้ที่เกี่ยวข้องในคดีฟอกเงิน ซึ่งจะดำเนินการภายใน 2 สัปดาห์นี้

สำหรับคดีนี้สำนักงาน ป.ป.ส. ยังได้อายัดทรัพย์ของนายตู้ห่าว และเครือข่ายคาดที่เกี่ยวข้องกับคดียาเสพติดมาได้แล้วมูลค่ากว่า 4,000 ล้านบาท และยังพบมีทรัพย์สินที่เตรียมยึดทรัพย์ไว้ตรวจสอบอีก 1,200 ล้านบาท

 

ขณะที่นายชูวิทย์ ได้เข้าขอบคุณ รมว.ยุติธรรมที่รับคดีนี้ไว้สอบสวนเป็นคดีพิเศษ พร้อมกับตั้งคำถามถึงผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เกี่ยวกับการดำเนินคดีนายตู้ห่าวกับพวกว่า ทำไมตั้งข้อหาคดียาเสพติดไม่ตั้งข้อหาคดีสมคบฟอกเงิน พยานหลักฐานคือ ค่าเช่า ค่าไฟ เงินค้ำประกัน และสิ่งต่าง ๆ ไม่ได้พิสูจน์ว่าตู้ห่าวขายยาเสพติด แต่พิสูจน์ว่าตู้ห่าวเป็นเจ้าของสถานที่ ซึ่งการเป็นเจ้าของสถานที่จะทำให้ไม่สามารถสืบต่อได้ว่าตู้ห่าวมียาและอยู่ในพื้นที่

มีพยานในที่เกิดเหตุจำนวนมากถึง 215 คน ควรจะต้องเอามือถือมาตรวจสอบให้ครบทั้งหมด รวมถึงดำเนินคดีกับคนเอารถของกลางออก และจะดำเนินคดีกับตำรวจที่ให้ช่วยหรือไม่

ข่าวที่เกี่ยวข้อง