เบื้องลึก 
แม้ว่า กสทช.จะเป็นองค์กรอิสระที่ต้องไปกำกับดูแลอุตสาหกรรมสื่อ และ โทรคมนาคม แต่รายชื่อคณะกรรมการที่มีนายทหารได้รับคัดเลือกถึง 5 นาย และ นายตำรวจ 1 นายนั้นกำลังถูกตั้งข้อสังเกตว่า กองทัพมีส่วนสำคัญในการล็อบบี้ ขณะที่มุมมองของคนทำสื่อ กลับเห็นว่า การมีทหารร่วมเป็นคณะกรรมการอาจช่วยประสานกับกองทัพได้ดีกว่า แต่กองทัพเองต้องระวังหากเข้าไปเกี่ยวข้องจนถูกครหา
ขณะที่โฆษกกรรมาธิการวุฒิสภา หรือ วิปวุฒิสภา เห็นว่า ผลการคัดเลือกจำนวน 11 คน ส่วนตัวมี 2 หรือ 3 คนที่สงสัยว่า เป็นม้ามืดได้รับเลือก แต่สัดส่วนที่มีคนจากกองทัพเกือบครึ่งนั้น น่าจะเป็นเรื่องบังเอิญมากกว่า
มีรายงานว่า นายทหารจำนวน 5 คน ที่ได้รับคัดเลือกนั้นส่วนใหญ่ไม่ใช่กองทัพส่งมา และ บางนายเป็นบุคคลที่มีความสามารถอยู่แล้ว เช่น พล.อ.อ.ธเรศ ปุณศรี ประธานกรรมการบริหาร สถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ (องค์การมหาชน) กระทรวงกลาโหม และมีกระแสข่าวถูกวางตัวให้เป็นว่าที่ประธาน กสทช. ซึ่ง พล.อ.อ.ธเรศ กล่าวกับไทยพีบีเอสว่า ยังไม่ขอให้สัมภาษณ์จนกว่าจะได้รับการโปรดเกล้าฯ
ขณะที่ พล.ท.พีระพงษ์ มานะกิจ ที่ปรึกษาสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม ม้ามืดในสาขาวิทยุโทรทัศน์ ประวัติเป็นคนสนิทของนายพินิจ จารุสมบัติ อดีตหัวหน้ากลุ่มวังพญานาค และ ยังได้รับการสนับสนุนจาก พล.อ.เลิศรัตน์ รัตนวานิช อดีต ส.ว.สรรหาซึ่งมีบารมีที่ ส.ว.กลุ่มเลือกตั้งให้การยอมรับ
เช่นเดียวกับและ พ.ต.อ.ทวีศักดิ์ งามสง่า อดีตผู้กำกับการ สถานีตำรวจภูธร อำเภอสีชมพู จังหวัดขอนแก่นเป็นคนสนิทของนายพินิจด้วยเช่นกัน ส่วน พ.อ.นที ศุกลรัตน์ และ พ.อ.เศรษฐพงศ์ มะลิสุวรรณ ที่ได้รับเลือกในสาขาโทรคมนาคมนั้นเป็นผู้มีความเชี่ยวชาญในด้านที่ได้รับเลือกอยู่แล้ว
จะมีเพียง พล.อ.สุกิจ ขมะสุนทร ที่ปรึกษาพิเศษ กองบัญชาการกองทัพไทย เป็นบุคคลที่มาจากองทัพแต่ใช้วิธีการขอให้สมาคมอินเทอร์เน็ตช่วยส่งรายชื่อเป็นผู้เหมาะสมมาจนได้รับการคัดเลือก