สางปมส่วยเกาะเสม็ด โจทย์หัวหน้าอุทยานฯ คนใหม่

ภูมิภาค
14 ก.พ. 66
19:45
303
Logo Thai PBS
สางปมส่วยเกาะเสม็ด โจทย์หัวหน้าอุทยานฯ คนใหม่
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ดคนใหม่ เปิดโต๊ะรับฟังปัญหาผู้ประกอบการหลากหลายอาชีพ เพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหาปิดช่องโหว้การจ่ายเงินนอกระเบียบอุทยานฯ

Spotlight จับจ้องมายังเกาะเสม็ด หาดทรายสีขาว น้ำทะเลฟ้าสีครามทันที เมื่อเป็น 1 ในอุทยานแห่งชาติฯ ได้รับการร้องเรียนผู้ประกอบการหลากหลายอาชีพต้องจ่ายส่วยให้กับกับอุทยานฯ

วันนี้ (14 ก.พ.2566) รถสองแถวสีเขียว หลายคันจอดเรียงราย บริเวณท่าเรือ คือ อีก 1 อาชีพ ที่สร้างรายได้ให้เจ้าของคิวรถบนเกาะทั้ง 60 คัน แต่กลับมีหลักฐานหลุดออกมาว่า มีการจ่ายเงินหัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ดคนเก่า คันละ 16,000 บาท เราลองเรียกใช้บริการและพูดคุยกับขับรถพวกเขาปฎิเสธพูดถึงปัญหาส่วย อ้างว่าเป็นเพียงคนขับรถและกินเปอร์เซนต์ ร้อยละ 20 จากเจ้าของรถเท่านั้น

นับเป็นครั้งแรกที่นายนิทัศน์ นุ่นสง หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ดคนใหม่ เข้ามารับฟังปัญหาที่เกิดขึ้น
จากตัวแทนผู้ประกอบการแต่ละอาชีพ หลังจากปรากฎหลักฐานการเรียกรับเงินเกิดขึ้น บรรยากาศการพูดคุยเป็นไปด้วยความปกติ ไม่มีการพูดถึงปัญหาเดิม มุ่งเน้นรับฟังปัญหาใหม่

มารับฟังปัญหาจากปากของคนที่อยู่ในพื้นที่จริง ๆ เพื่อหาทางแก้ไขร่วมกันเพื่อให้ถูกต้อง อะไรที่นอกระเบียบ ก็ต้องแก้ไข เพื่อไม่ให้เกิดความขัดแย้งในที่ทำงาน

หลังประชุมทีมข่าวพยายามสอบถาม นายธานีประธานผู้ประกอบการรถสองแถว แต่ไม่พร้อมให้สัมภาษณ์ ยืนยัน ไม่มีการจ่ายส่วยคันละ 16,000 บาท เพื่อแลกกับการวิ่งรับส่งนักท่องเที่ยว แม้จะมีหลักฐาน ระบุ ว่าเป็นการจ่ายเงินสดให้กับอุทยานฯ

นอกจากนี้ยัง มีการกล่าวอ้างว่ามีการจ่ายเงินคันละ 1,600 บาท จำนวน 656 คัน ทีมข่าวได้พูดคุยกับประมวน ดีระสาร ประธานชมรมรถมอเตอร์ไซต์บนเกาะเสม็ดยืนยันว่า ที่ผ่านมาไม่ได้มีการจ่ายสวยเลย ซึ่งผู้ประกอบการจ่ายให้กับอุทยานจริงเพียงคันละ 20 บาทตามระเบียบของอุทยานฯ

ไม่มีการจ่ายเงิน ไม่มีใครมาเรียกเก็บ มีแต่อุทยานฯ มาเรียกเก็บ คันละ 20 บาทต่อคันต่อเดือน ทั้งหมด 656 คัน เก็บได้บ้าง ไม่ได้บ้าง ได้แค่ไหน ก็จ่ายเท่านั้น 

ทั้งนี้ หัวหน้าอุทยานฯ ได้ลงพื้นที่ทำความเข้าใจการต่อเติมอาคารของผู้ประกอบการรีสอร์ท และขอให้ชะลอไว้ก่อน และขออนุญาตให้ถูกต้อง ขณะเดียวกันยังพบว่ามีการกล่าวอ้างว่า เรียกรับผลประกอบการจากผู้ประกอบการกลุ่มนี้อีกด้วย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง