รอลุ้นประกาศยุบสภา! ก่อน กกต.ชี้ชะตา ”ไตรรงค์” รอดหรือร่วง

การเมือง
2 มี.ค. 66
18:02
1,221
Logo Thai PBS
รอลุ้นประกาศยุบสภา! ก่อน กกต.ชี้ชะตา ”ไตรรงค์” รอดหรือร่วง
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)

ความวัวยังไม่ทันหาย หลัง นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี ประธานที่ปรึกษาพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) กล่าวบนเวทีปราศรัยใหญ่ที่สนามหน้าศาลากลาง จ.นครราชสีมา เมื่อวันที่ 26 ก.พ.2566 ตอนหนึ่งว่า

“พระพุทธเจ้าตรัสเอาไว้ว่า ความกตัญญูกตเวทีเป็นคุณสมบัติของคนดี พวกเราเป็นคนดีใช่ไหมพี่น้อง เราต้องไม่ลืมบุญคุณบรรพบุรุษใช่ไหมพี่น้อง ต้องรักษาประเทศนี้เอาไว้ให้อยู่ให้ดีที่สุดใช่ไหมครับพี่น้อง ร.9 ตรัสเอาไว้ว่า จงเลือกคนดีปกครองประเทศเท่านั้น ผมเองไม่เล่นแล้วการเมือง แต่ผมมาช่วยบิ๊กตู่ (พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา) เพราะเห็นว่าเขาเป็นคนดี ผมดูแล้วหัวหน้าพรรคทั้งหลายเนี่ยไม่มีใครดีเหนือกว่าบิ๊กตู่หรอก ถ้าเราอยากได้รัฐบาลที่ดีตามที่ ร.9 ทรงประสงค์นั้นให้เลือกพรรคเพื่อไทย ... ”

ความควายก็เข้ามาแทรก เมื่อ นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เข้ายื่นคำร้องต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อขอให้ไต่สวนและวินิจฉัยว่า คำปราศรัยหาเสียงของนายไตรรงค์ ในวันดังกล่าว ที่นำสถาบันพระมหากษัตริย์มาเกี่ยวข้องกับการหาเสียงเลือกตั้งเข้าข่ายฝ่าฝืนกฎหมายเลือกตั้งหรือไม่

โดยเฉพาะการฝ่าฝืน ข้อ 17 ของระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้งว่าด้วยวิธีการหาเสียงและลักษณะต้องห้าม ในการหาเสียงเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 2561 หรือไม่ที่กำหนดไว้ชัดเจนว่า ห้ามผู้สมัครพรรคการเมือง หรือผู้ใดนำสถาบันพระมหากษัตริย์มาเกี่ยวข้องกับการหาเสียงเลือกตั้ง

ประกอบกับ ม.73(5) ของ พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 2561 ห้ามมิให้ผู้สมัครหรือผู้ใดกระทําการอย่างหนึ่งอย่างใดเพื่อจูงใจให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ลงคะแนนให้แก่ตนเองหรือผู้สมัครอื่นด้วยวิธีการจูงใจให้เข้าใจผิดในคะแนนนิยมของผู้สมัครหรือพรรคการเมือง

รอลุ้นประกาศยุบสภาก่อน กกต.ชี้ชะตา

เช่นเดียวกับ นายสมชัย ศรีสุทธิยากร ประธานยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนนโยบายพรรคเสรีรวมไทย ในฐานะอดีตคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มองว่า ขณะนี้ระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้งว่าด้วยวิธีการหาเสียงและลักษณะต้องห้ามในการหาเสียง ส.ส. ของ กกต. บังคับใช้อยู่ โดยระเบียบข้อ 17 ระบุไว้ชัดเจนว่า ห้ามผู้สมัครนำสถาบันพระมหากษัตริย์มาเกี่ยวข้องกับการหาเสียง

และในวันพรุ่งนี้ (3 มี.ค) จะนำเรื่องดังกล่าวร้องเรียนต่อ กกต. เนื่องจากขณะนี้อยู่ระหว่างช่วงเวลา 180 วันก่อนสภาฯ ครบอายุ และกรณีนี้เอาผิดถึงขั้นยุบพรรค ตามมาตรา 92 พ.ร.ป.พรรคการเมืองฯ เพราะถือว่าเป็นการกระทำที่เป็นปฏิปักษ์ต่อระบอบประชาธิปไตย

ขณะที่นายไตรรงค์ มองว่า ระเบียบของ กกต.จะใช้เฉพาะเมื่อมีการประกาศพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้ง หลังการยุบสภา ดังนั้นการนำกฎข้อบังคับที่ใช้สำหรับในการปราศรัยหาเสียงมาบังคับใช้ก่อนจึงเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ซึ่ง กกต.ต้องอธิบายกรอบให้ชัดเจน และให้คำจำกัดความว่าได้แค่ไหน

นอกจากนี้ กกต.ต้องชี้แจงให้ชัดเจนในกฎข้อบังคับว่า การห้ามนำสถาบันพระมหากษัตริย์มาใช้ในการหาเสียง หมายถึงอะไร เพราะสถาบันพระมหากษัตริย์ มีมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน จุดตัดอยู่ตรงไหน

ต้องจับตาดูว่าช่วงที่ กกต.อยู่ระหว่างการตรวจสอบเรื่องดังกล่าว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ จะประกาศยุบสภาในเร็วๆ นี้หรือไม่

หากยุบสภาระหว่างที่ กตต.กำลังตรวจสอบเรื่องของนายไตรรงค์ ความผิดทั้งหมดถือว่าเป็นโมฆะ เป็นการล้างไพ่ใหม่หมด เข้าสู่โหมดการเลือกตั้งปกติ แต่หากยังไม่ประกาศยุบสภา กกต.จะต้องเดินหน้าตรวจสอบ ใช้ดุลยพินิจพิจารณาว่าเข้าข่ายการกระทำความผิดหรือไม่

และกรณีที่ กกต.วินิจฉัยว่าเป็นการฝ่าฝืนจริงก็อาจเข้าข่ายความผิดตาม ม.159 ของ พ.ร.ป.เลือกตั้ง ส.ส. ต้องระวางโทษจําคุกตั้งแต่ 1-10 ปี หรือปรับตั้งแต่ 20,000-200,000 บาท หรือทั้งจําทั้งปรับ และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้นั้นมีกําหนด 20 ปี

ต้องรอลุ้นว่าสิ่งใดจะเกิดขึ้นก่อนกัน เพราะหมายถึงอนาคตทางการเมืองของพรรค รทสช. และนายไตรรงค์เจ้าของฉายา ”สามสี ภูเขาทอง” ด้วย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง