หญิง วัย 57 ปี ร้องขอความเป็นธรรม หมอลืม "ดอกสว่าน" ไว้ในขานาน 6 ปี

อาชญากรรม
9 มี.ค. 66
07:27
1,581
Logo Thai PBS
หญิง วัย 57 ปี ร้องขอความเป็นธรรม หมอลืม "ดอกสว่าน" ไว้ในขานาน 6 ปี
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
หญิงอายุ 57 ปี ร้องขอความเป็นธรรม หลังแพทย์ลืม "ดอกสว่าน" ไว้ในขา นาน 6 ปี จนอักเสบเป็นหนอง ไม่สามารถเดินได้ ขาดโอกาสทำงาน

วันที่ 8 มี.ค.2566 ลูกชายและญาติ ช่วยกันประคอง นางจันทรา อายุ 57 ปี เข้าร้องเรียน นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี กรณีไม่ได้รับการเยียวยาหรือช่วยเหลืออย่างเป็นธรรม จากแพทย์และโรงพยาบาลที่เข้ารับการรักษาตัวจากอาการบาดเจ็บ ซึ่งต่อมาได้รับผลข้างเคียงจากการรักษาบาดแผล ทำให้เกิดการติดเชื้อจากการลืมอุปกรณ์ ทางการแพทย์หรือดอกสว่านยาว ประมาณ 1 นิ้ว เอาไว้ในขาข้างขวาที่ได้รับบาดเจ็บ

นางจันทรา เปิดเผยว่า เมื่อปี 2559 ประสบอุบัติเหตุทำให้ต้องใส่เหล็กดามขา 7 เส้น ต่อมาปี 2560 ได้ไปถอดเหล็กที่ขาออก 6 เส้น เหลือเอาไว้ 1 เส้น ซึ่งขาก็เกิดอาการอักเสบ เป็นหนอง มีอาการปวด ไม่สามารถเดินได้ จึงไปรักษาตัวที่ โรงพยาบาล และขอให้แพทย์เอาเหล็กออก แต่แพทย์แจ้งว่าไม่สามารถเอาออกให้ได้

จนกระทั่งปี 2565 เกิดอาการขาข้างขวา มีอาการปวดบวมจนทนไม่ไหว เพราะจุดบริเวณที่เจาะเหล็กดาม เริ่มมีน้ำหนอง ไหลอักเสบออกมามากขึ้น จึงได้เข้าพบหมอที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งใน จ.สระบุรี ต่อมาทางโรงพยาบาลดังกล่าว ได้ส่งตัวมายัง โรงพยาบาลที่กรุงเทพฯ โดยแพทย์แจ้งว่ากระดูกติดเชื้อ จึงได้ผ่าตัดเอาดอกสว่านที่ตกค้างอยู่ภายในขาออกให้

เมื่อผ่าตัดเอาดอกสว่านออกแล้ว บริเวณบาดแผลที่อักเสบมาตลอด มีอาการดีขึ้นมาตามลำดับ เมื่อสอบถามกลับไปทางโรงพยาบาล ไม่ได้รับคำตอบหรือคำชี้แจง

ทนายรณณรงค์ กล่าวว่า ทาง สปสช. และ กระทรวงสาธารณสุข หรือสาธารณสุขจังหวัดสระบุรี ต้องลงมาดูแลตรวจสอบเรื่องที่เกิดขึ้นที่โรงพยาบาลแห่งนี้ว่า กรณีแพทย์ได้ลืมสิ่งของ หรือ ดอกสว่าน เอาไว้ในร่างกายของประชาชน แบบนี้ ใช่อุปกรณ์ทางการแพทย์จริงหรือไม่ ทำไมทางโรงพยาบาลที่รักษาไม่เยียวยาผู้บาดเจ็บและได้รับผลกระทบ ทำให้ขาดโอกาส ประกอบอาชีพได้ไม่สมบูรณ์

ทนายรณณรงค์ กล่าวด้วย เบื้องต้นทราบว่า มีวงเงินเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบไม่เกิน 400,000 บาท จึงขอให้ รมว.สาธารณสุข ให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องดังกล่าวนี้ด้วย

แท็กที่เกี่ยวข้อง:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง