เตือน! หิ้วผลไม้จากต่างแดนเข้าไทยโทษปรับ 2 หมื่น-คุก 1 ปี

เศรษฐกิจ
10 เม.ย. 66
11:54
8,773
Logo Thai PBS
เตือน! หิ้วผลไม้จากต่างแดนเข้าไทยโทษปรับ 2 หมื่น-คุก 1 ปี
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
กรมวิชาการเกษตร เตือนนักท่องเที่ยวเทศกาลหยุดยาว เลี่ยงซื้อผลไม้สดตามคำแนะนำของไกด์ โดยเฉพาะพลับ องุ่นจากเกาหลี ญี่ปุ่น หากเข้าประเทศต้องมีใบรับรองสุขอนามัยพืชจากต้นทางไม่มีเสี่ยงปรับ 20,000 บาทจำคุก 1 ปี

วันนี้ (10 เม.ย.2566) นายระพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร กล่าวว่า ช่วงนี้เป็นฤดูกาลท่องเที่ยวของประเทศไทยมีนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศ และชาวไทยที่เดินทางเข้าประเทศกันเป็นจำนวนมากโดยเฉพาะนักท่องเที่ยงที่เดินทางกลับจาก เกาหลี ญี่ปุ่น ที่นิยมซื้อผลไม้สด เช่น พลับ องุ่น ที่มีราคาถูกกว่าเมืองไทย เข้าประเทศเป็นจำนวนมาก

กรมวิชาการเกษตร แจ้งว่า การนำเข้าผลไม้สดเข้ามายังราชอาณาจักรไทย โดยไม่สำแดงใบรับรองสุขอนามัยพืชผ่านเข้าประเทศไทยในทุกช่องทาง เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายตามพระราชบัญญัติ กักพืช พ.ศ.2507 และแก้ไขเพิ่มเติมมีโทษทั้งจำและปรับ

ภาพ:กรมวิชาการเกษตร

ภาพ:กรมวิชาการเกษตร

ภาพ:กรมวิชาการเกษตร

พบซื้อตามคำแนะนำไกด์-เตือนผิดกฎหมาย

อธิบดีกรมวิชาการเกษตร กล่าวว่า จึงขอแจ้งเตือนให้นักท่องเที่ยวที่เดินทางกลับเข้าประเทศระวังในการกระทำดังกล่าว ที่อาจจะเกิดจากความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ และไม่ได้มีเจตนาที่จะกระทำผิด

ซึ่งหากตรวจพบเจ้าหน้าที่จะดำเนินการตามกฎหมายซึ่งมีโทษทั้งจำ และปรับรวมถึงยึดสินค้าเพื่อนำไปทำลายตามกฎหมายกักพืช โดยกรมวิชาการเกษตรจะประสานกับทางการท่าอากาศยานให้ประชาสัมพันธ์เรื่องนี้ให้เข้มข้นมากขึ้นเพื่อให้ประชาชนรับทราบทั่วกัน

จากการสอบถามนักท่องเที่ยว พบว่าซื้อตามคำแนะนำของไกด์นำเที่ยว จึงฝากให้ประชาชนระมัดระวังจะไม่ต้องเสียเงินกับสินค้ากลุ่มนี้ หากฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามจะมีความผิดต้องระวางโทษตามมาตรา 21 จำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ปัจจุบันด่านตรวจพืชท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ มีการตรวจยึดผักและผลไม้สดที่นักท่องเที่ยวนำติตตัวเข้ามาที่อาคารโดยสารได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ตักเตือนและปล่อยตัวแต่ยึดสิ่งของไว้ และทำการแช่เย็น

ภาพ:กรมวิชาการเกษตร

ภาพ:กรมวิชาการเกษตร

ภาพ:กรมวิชาการเกษตร

หลังจากทำการตรวจสอบศัตรูพืชเบื้องต้นเพื่อรอส่งทำลาย ด้วยวิธีการเผาด้วยอุณหภูมิสูง เป็นการป้องกันความเสี่ยงศัตรูพืช เข้ามาแพร่ระบาดในประเทศ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อภาคเกษตรกรรม และระบบนิเวศของประเทศไทย ตามพ.ร.บ.กักพืช พ.ศ.2507 และที่แก้ไขเพิ่มเติม

พร้อมกับได้สั่งการสำนักควบคุมพืชและวัสดุการเกษตรจัดเตรียมจุดทิ้งสิ่งต้องห้ามในบริเวณสนามบินให้ชัดเจนหลายจุดให้นักท่องเที่ยวสามารถสังเกตเห็นได้ง่าย เพื่อที่นักท่องเทียวจะไม่ทำผิดกฎหมายโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์

ข่าวที่เกี่ยวข้อง