วิเคราะห์ : "ฮุน เซน" กำจัดศัตรูการเมืองหวังเลือกตั้งไร้คู่แข่ง

ต่างประเทศ
16 พ.ค. 66
21:28
791
Logo Thai PBS
วิเคราะห์ : "ฮุน เซน" กำจัดศัตรูการเมืองหวังเลือกตั้งไร้คู่แข่ง
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
การเมืองกัมพูชามีความเคลื่อนไหวครั้งสำคัญ หลังจากพรรคฝ่ายค้านถูกตัดสิทธิลงรับสมัครเลือกตั้ง หากการยื่นอุทธรณ์ของพรรคฝ่ายค้านต่อศาลรัฐธรรมนูญไม่สำเร็จ จะเหลือพรรครัฐบาลพรรคเดียวในการเลือกตั้งทั่วไปในเดือน ก.ค.นี้

ความเคลื่อนไหวของคณะกรรมการการเลือกตั้งกัมพูชาถูกวิจารณ์อย่างหนัก หลังจากตัดสิทธิ "พรรคแสงเทียน" จากการลงสู้ศึกเลือกตั้งในอีก 2 เดือนนี้ การลงดาบพรรคฝ่ายค้านถูกมองว่าเป็นการเตะตัดขาคู่แข่งสำคัญ เพราะพรรคแสงเทียนเป็นคู่ท้าชิงที่เหลืออยู่เพียงหนึ่งเดียวของ "ฮุน เซน"

โฆษกพรรคแสงเทียน โต้กลับว่า การตัดสิทธิเป็นการกระทำที่ไร้เหตุผล ในขณะที่การสร้างระบอบประชาธิปไตยหลายพรรคยังคงเป็นไปได้ยาก โดยพรรคแสงเทียนเตรียมยื่นอุทธรณ์คำสั่งต่อศาลรัฐธรรมนูญ เพราะเมื่อปี 2022 พรรคสามารถลงรับสมัครในศึกเลือกตั้งท้องถิ่นโดยไม่มีปัญหาใดๆ

อ่านข่าว : กกต.กัมพูชา ตัดสิทธิฝ่ายค้านลงเลือกตั้ง ก.ค.นี้

พรรคแสงเทียน หรือ Candlelight Party เกิดจากอดีตพรรคฝ่ายค้านเก่าแก่ และเริ่มมีบทบาททางการเมืองตั้งแต่เดือน พ.ย.1995 พรรคได้คะแนน 22% ในการเลือกตั้งท้องถิ่นเมื่อเดือน มิ.ย.2022 และกลายเป็นคู่แข่งสำคัญของพรรค CPP ในการเลือกตั้งระดับชาติ

ผลงานในการเลือกตั้งท้องถิ่นทำให้รัฐบาลต้องเร่งเครื่องกระชับอำนาจ เพื่อไม่ให้พรรคฝ่ายค้านเติบโตในการเลือกตั้งจนประวัติศาสตร์ซ้ำรอย เนื่องจาก ฮุน เซน หมายมั่นปั้นมือในการกุมอำนาจทางการเมืองต่อไป และปูทางให้ ฮุน มาเนต บุตรชาย สืบทอดเก้าอี้ผู้นำกัมพูชาในวันข้างหน้า

สมาชิกระดับอาวุโสของพรรคแสงเทียน เคยให้สัมภาษณ์ BBC ว่า เผชิญกับความพยายามขัดขวางไม่ให้ลงทะเบียนในการเลือกตั้งทั่วไป แกนนำพรรคจำนวนไม่น้อยถูกตัดสิทธิและเผชิญกับคดีอาญา ขณะที่สมาชิกบางส่วนแปรพักตร์ไปจับมือกับรัฐบาลฮุน เซน เพื่อเอาตัวรอด นอกจากนี้ผู้นำกัมพูชายังเคยขู่ว่าแกนนำพรรคแสงเทียนอาจถูกจำคุก หากปลุกปั่นให้ผู้สนับสนุนเดินขบวนต่อต้านคำสั่งตัดสิทธิลงเลือกตั้ง

รายงานของ Human Rights Watch เมื่อเดือน เม.ย.2023 พบว่า สมาชิกของพรรคแสงเทียนหลายคนถูกคุกคามและทำร้ายร่างกาย ขณะที่การดำเนินคดีอาญากลุ่มต่อต้านมีตั้งแต่ความผิดฐานปลอมแปลงเอกสารลงทะเบียน ไปจนถึงความผิดฐานหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ

การปราบปรามศัตรูทางการเมืองของฮุน เซน ไม่ได้เกิดขึ้นเป็นครั้งแรกในหน้าประวัติศาสตร์กัมพูชาสมัยใหม่ นับตั้งแต่ปี 2000 เป็นต้นมา การเลือกตั้งทั่วไปเมื่อปี 2013 อาจเป็นกรณีศึกษาได้อย่างชัดเจน เมื่อพรรค CNRP คว้าที่นั่งในสภาได้ 55 ที่นั่ง จากทั้งหมด 123 ที่นั่ง จากนั้นปี 2017 ศาลสูงสั่งยุบพรรค CNRP ดำเนินคดีสมาชิกพรรคนับร้อย และ "เกิม ซกฮา" หัวหน้าพรรคถูกจับกุมในข้อหาล้มล้างรัฐบาลกัมพูชา

การกวาดล้างพรรคการเมืองขั้วตรงข้ามอย่างเบ็ดเสร็จของฮุน เซน เปิดทางให้พรรค CPP สามารถกวาดที่นั่งทั้งหมดในการเลือกตั้งปี 2018

เมื่อเดือน มี.ค.2023 ผู้พิพากษาศาลในกรุงพนมเปญ มีคำพิพากษาตัดสินให้เกิมต้องรับโทษกักบริเวณในบ้านพัก 27 ปี และถูกตัดสิทธิทางการเมือง ทั้งการลงสมัครรับเลือกตั้งและการใช้สิทธิเลือกตั้งอย่างไม่มีกำหนด ในความผิดฐานก่อกบฏและสมรู้ร่วมคิดกับต่างชาติ แม้ว่าพรรคแสงเทียนจะไม่ได้มีฐานเสียงมากเท่ากับพรรค CNRP แต่การดำรงอยู่ของพรรคอาจเป็นอุปสรรคต่อการส่งไม้ต่อให้บุตรชาย

หลังจาก ฮุน เซน วัย 70 ปี กุมอำนาจมานานถึง 38 ปีนับตั้งแต่ปี 1985 ท่ามกลางรายงานเกี่ยวกับการปราบปรามผู้เห็นต่างอย่างต่อเนื่อง ขณะที่การตัดสิทธิพรรคแสงเทียนในการลงสมัครรับเลือกตั้งในครั้งนี้ ยังดับฝันสมาชิกพรรคในการยกระดับการเลือกตั้งให้โปร่งใสมากขึ้น

หน่วยงานด้านสิทธิมนุษยชนเรียกร้องให้ผู้สนับสนุนทางการเงินกัมพูชา จับตามองการปราบปรามกลุ่มผู้เห็นต่างทางการเมืองอย่างใกล้ชิด หลังจากความเคลื่อนไหวของรัฐบาลกัมพูชาตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา ฟันธงได้ทันทีว่า ฮุน เซน ชนะเลือกตั้งแบบลอยลำมาแต่ไกล

วิเคราะห์โดย พงศธัช สุขพงษ์

อ่านข่าวอื่นๆ

ชาวตุรกีเตรียมเลือกตั้ง "ประธานาธิบดี" รอบตัดสิน

วิเคราะห์ : ผลเลือกตั้งรอบแรกสะท้อนภาพ "การเมืองตุรกี" อย่างไร

เลือกตั้ง2566 : สื่อต่างชาติเกาะติดเลือกตั้งไทย ชี้สะท้อนความต้องการเปลี่ยนแปลง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง