"ขอนแก่น" รุกเดินหน้า-บำบัดคนติดยา หนุนฝึกอาชีพ-คืนชีวิตให้ครอบครัว

ภูมิภาค
10 มิ.ย. 66
16:01
693
Logo Thai PBS
"ขอนแก่น" รุกเดินหน้า-บำบัดคนติดยา หนุนฝึกอาชีพ-คืนชีวิตให้ครอบครัว
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
ตำรวจภูธรเมืองขอนแก่นร่วมกับฝ่ายปกครอง แก้ปัญหาผู้ป่วยติดยาเสพติด โดยใช้กิจกรรม ชุมชนบำบัด เป็นการทำงานร่วมของทุกคนในหมู่บ้าน และมีครูฝึกคอยดูแลใกล้ชิด เพื่อลดปัญหาการเสพยาบ้า และคนคุ้มคลั่ง ขณะที่บางชุมชนก็จัดเวรยามลาดตระเวนป้องกันเหตุ

กลุ่มผู้ป่วยติดยาเสพติดบ้านดอนบม ต.เมืองเก่า อ.เมืองขอนแก่น จ.ขอนแก่น ที่สมัครใจเข้าร่วมกิจกรรมบำบัดยาเสพติดในชุมชน จะมารวมตัวที่ลานเอนกประสงค์ของหมู่บ้าน ในช่วงเย็นของทุกวัน เพื่อทำกิจกรรมร้องเพลง เล่นฟุตบอล หรือกิจกรรมสันทนาการ ที่ครูฝึกจะออกแบบและสอดแทรกความรู้เกี่ยวผลกระทบจากการใช้สารเสพติดไปด้วย 

นายสวัสดิกร รักอ่อน ผู้ใหญ่บ้านดอนบม หมู่ 7 ต.เมืองเก่า อ.เมืองขอนแก่น บอกว่า กิจกรรมนี้เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการแก้ปัญหายาเสพติดในชุมชน และอยากให้ทุกชุมชนเริ่มต้นแก้ปัญหานี้อย่างจริงจัง แม้ช่วงแรกอาจทำไม่ได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ทำให้ทุกคนในชุมชนตระหนักว่า นี่คือปัญหาร่วมกัน ต้องช่วยกันเอ็กซเรย์หรือสำรวจปัญหา ดึงลูกหลานออกมาจากขบวนการยาเสพติด

ต้น ชายวัย 28 ปี หนึ่งในผู้ร่วมโครงการ เข้ามาเพราะอยากเลิกสารเสพติด ก่อนหน้าเข้าโครงการ เขาเพิ่งก่อเหตุทะเลาะวิวาทกับผู้นำชุมชน

ต้นเล่าว่า เคยใช้เสพยาตั้งแต่อายุ 16 ปี และเคยเลิกไปแล้ว จนมีครอบครัวมีลูก 1 คน ปัจจุบันเลิกรากับภรรยา จึงหันกลับมาใช้ยาเสพติดอีก และเคยเข้าสู่กระบวนการบำบัดมาแล้วแต่ไม่ได้ผล

ที่ผ่านมามีแต่คนซ้ำเติมที่ผมติดยาบ้า แต่ตอนนี้ตั้งใจมากที่เข้าร่วมโครงการ และอยากบอกว่าผมจะเปลี่ยนแปลงแล้ว

วันนี้ต้นค่อยๆ ปรับตัวเอง กลับมารับจ้างไถนา เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระพ่อแม่ และคาดหวังว่า เขาจะเป็นที่พึ่งของครอบครัว และหวังว่าหากเปลี่ยนแปลงตัวเองได้จะได้เจอหน้าลูก

โครงการชุมชนยั่งยืน เป็นโครงการที่จัดขึ้น โดยตำรวจภูธรเมืองขอนแก่น ร่วมกับฝ่ายปกครองอำเภอเมืองขอนแก่น รับผู้บำบัดแบบสมัครใจ จะไม่มีการจับกุม หรือบังคับ

โดยใช้สถานที่ในชุมชนเป็นหลัก เพื่อให้ผู้บำบัดได้ใช้ชีวิตตามปกติ แต่อาศัยความหนักแน่นทางด้านจิตใจ ที่จะไม่กลับไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด ซึ่งเจ้าหน้าที่จะสุ่มตรวจทุกๆ 2 วัน ซึ่งหากพบก็จะตักเตือนและให้กำลังใจ เริ่มต้นใหม่ จนทำให้วันนี้ ผู้เข้าร่วมอบรม เกินครึ่งหนึ่ง ไม่พบสารเสพติดในร่างกาย

พ.ต.อ.ปรีชา เก่งสาริกิจ ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น ระบุว่า แม้จะเสร็จสิ้นโครงการ และมีคนเลิกยาเสพติดได้ แต่ตำรวจและชุมชนจะยังคงติดตาม จะคอยสนับสนุนด้านอาชีพ ให้เขากลับมาเริ่มต้นชีวิตใหม่ให้ได้

จำนวนผู้ร่วมการบำบัด ที่สามารถชนะใจตัวเองได้ เลิกใช้สารเสพติดในช่วง 2 สัปดาห์ นับว่าประสบผลสำเร็จในเบื้องต้นเท่านั้น หลังจากนี้ตำรวจจะยังคงติดตามผล และสุ่มตรวจหาสารเสพติดอย่างต่อเนื่อง เพื่อการแก้ปัญหาที่ยั่งยืน

หลังจากนี้ นายอำเภอเมืองขอนแก่น ได้เตรียมขยายผลโครงการนี้ ไปยังตำบลอื่นๆ เพราะมองเห็นว่า การจัดกิจกรรมในชุมชน ทำให้ผู้ป่วยไม่รู้สึกถูกแยกหรือเป็นส่วนเกินของชุมชน

นอกจากนี้โครงการนี้ ยังช่วยสร้างความเข้าใจกับชาวบ้าน เพราะปัญหายาเสพติด ไม่สามารถแก้ไขได้เพียงหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่ง แต่ต้องอาศัยความร่วมมือจากครอบครัวและชุมชน

ไม่ได้มีเพียงบ้านดอนบม ต.เมืองเก่า ที่เริ่มต้นแก้ปัญหายาเสพติดอย่างจริงจัง ฝ่ายปกครองตำบลหนองตูม อ.เมืองขอนแก่น ก็พยายามป้องกันปัญหา โดยจัดเวรยามออกลาดตระเวนตามจุดเสี่ยง ป้องปรามปัญหาจากการเสพยาบ้า และเหตุความรุนแรงเกือบทุกคืน

การขอตรวจค้นจักรยานยนต์ของเยาวชน ที่ขับขี่เข้ามาบริเวณวัด หรือจุดที่ถูกแจ้งจากชาวบ้านว่า เป็นแหล่งมั่วสุมในยามค่ำคืน เป็นหนึ่งในภารกิจลาดตระเวนจุดเสี่ยง ของชุดเคลื่อนที่ฝ่ายปกครอง ต.หนองตูม หรือสายตรวจกำนัน อ.เมืองขอนแก่น ที่จะจัดเวรยามออกลาดตระเวนตามจุดเสี่ยงต่าง ๆ เพื่อป้องปรามปัญหาจากการเสพยาเสพติด และเหตุความรุนแรง

นายสำรอง มนตรี กำนันตำบลหนองตูม อ.เมืองขอนแก่น เปิดเผยว่า ปัญหาคนเมายาบ้าคุ้มคลั่ง เกิดขึ้นบ่อยครั้ง บางหมู่บ้านผู้นำชุมชนที่เข้าไประงับเหตุก็ถูกทำร้ายเกือบเสียชีวิต จึงต้องปรับการทำงานจากการเผชิญเหตุ ต้องอาศัยการลาดตระเวนป้องปรามเหตุด้วย

การออกตรวจไม่ได้หมายถึงการออกจับกุม แต่เป็นการสอดส่องดูแล เฝ้าระวังเหตุร้าย คอยถามไถ่ลูกหลานในชุมชน และตักเตือนด้วยความเป็นห่วง

ต.หนองตูม อ.เมืองขอนแก่น เป็นอีกหนึ่งพื้นที่ ที่พบปัญหาจากการใช้ยาเสพติดอย่างต่อเนื่อง เคยมีคนเมายาบ้าก่อเหตุคุ้มคลั่งทำร้ายชาวบ้านและผู้นำหมู่บ้านที่เข้าไประงับเหตุ

บางครอบครัวพ่อต้องแจ้งจับลูกชายที่เมายาบ้าอาละวาด ทำให้ผู้นำชุมชนต้องประชุมติดตามข้อมูล และรายงานปัญหาอยู่เสมอ เพื่อวางแผนรับมือ ซึ่งหากปัญหารุนแรงก็ต้องแจ้งตำรวจให้จัดระงับก่อนที่จะเกิดความสูญเสีย

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง