ฟุตบอลอุ่นเครื่องฟีฟ่าเดย์ นัดที่ 2 ที่สนามฮ่องกง สเตเดี้ยม ทีมชาติไทย อันดับ 114 ของโลก พบ ฮ่องกง อันดับ 146 ของโลก โดยเกมแรกทีมไทย เสมอ ไต้หวันมา 2-2
โค้ช "มาโน โพลกิง มีการเปลี่ยนแปลงนักเตะบางตำแหน่ง แต่ยังมีตัวหลักทั้ง ธีรศิลป์ แดงดา, ชนาธิป สรงกระสินธ์ และ สุภโชค สารชาติ ลงสนามเป็นตัวจริง
ชนาธิป สรงกระสินธ์ กัปตันทีมชาติไทย พยายามสร้างสรรค์เกมรุก ภาพ : ฟุตบอลทีมชาติไทย
ชนาธิป สรงกระสินธ์ กัปตันทีมชาติไทย พยายามสร้างสรรค์เกมรุก ภาพ : ฟุตบอลทีมชาติไทย
ตลอดเกือบทั้งเกม เป็นทีมไทย ที่ครองบอลได้เหนือกว่า และพยายามเปิดเกมบุกใส่ฮ่องกง อยู่ฝ่ายเดียว แต่ด้วยรูปร่างที่เสียเปรียบ บวกกับการเข้าปะทะหนักของผู้เล่นฮ่องกง ที่ตัดฟาวล์ ทั้ง ชนาธิป และ ชาญณรงค์ 2 คีย์แมนไทย จนเล่นไม่ออก ในขณะที่ สุภโชค โดนประกบติด ไม่มีโอกาสลากเลื้อยมากเท่าที่ควร
แต่จนแล้วจนรอด ก็เป็นทีมชาติไทยที่มาได้ประตูในนาทีที่ 63 จากจังหวะที่ ชาญณรงค์ พรมศรีแก้ว จ่ายแบบเฉียบคม ให้ ธีรศิลป์ แดงดาในวัย 35 ปี วิ่งมายิงตวัดตามน้ำเข้าเสาแรกไป และเป็นประตูที่ 63 ในนามทีมชาติ รั้งดาวซัลโวอันดับ 3 ตลอดกาล โดยตามหลัง เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง กับ ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน 2 ดาวยิงระดับตำนาน เพียงแค่ 7 ลูกเท่านั้น
ชาญณรงค์ พรมศรีแก้ว วัย 22 ปี ดาวรุ่ง ตัวความหวังของทีมชาติไทย ที่จ่ายให้
ชาญณรงค์ พรมศรีแก้ว วัย 22 ปี ดาวรุ่ง ตัวความหวังของทีมชาติไทย ที่จ่ายให้ "ธีรศิลป์" ทำประตูชัยได้สำเร็จ ภาพ : ฟุตบอลทีมชาติไทย
หลังจากได้ประตูนำ ทีมไทย หันมาเล่นตั้งรับ และ โต้กลับ ทำให้ฮ่องกง มีโอกาสบุกกดดันอยู่หลายครั้ง แต่จังหวะสุดท้ายเกมรับของไทย ก็ยังช่วยกันได้ดี จบเกม ทีมชาติไทย เอาชนะ ฮ่องกงแบบหืดจับ 1-0 อย่างน้อยได้ช่วยปลดล็อกความกดดันของโค้ชมาโน เนื่องจากเป็นชัยชนะนอกบ้านนัดแรกในรอบ 7 เกมเลยทีเดียว พร้อมรับเงินอัดฉีดจาก มาดามแป้ง นวลพรรณ ล่ำซำ ผู้จัดการทีม 1 ล้านบาท
"ธีรศิลป์" ยิง 1 ประตู ช่วยให้ทีมชาติไทย คว้าชัย เหนือ ฮ่องกง ถือเป็นชัยชนะครั้งแรกรอบ 7 นัดของทัพ "ช้างศึก" ในเกมบุกเยือน หลังก่อนหน้านี้ยังไม่สามารถคว้าชัยในเกมเยือน 6 นัดติด ภาพ : ฟุตบอลทีมชาติไทย
"ธีรศิลป์" ยิง 1 ประตู ช่วยให้ทีมชาติไทย คว้าชัย เหนือ ฮ่องกง ถือเป็นชัยชนะครั้งแรกรอบ 7 นัดของทัพ "ช้างศึก" ในเกมบุกเยือน หลังก่อนหน้านี้ยังไม่สามารถคว้าชัยในเกมเยือน 6 นัดติด ภาพ : ฟุตบอลทีมชาติไทย
หลัง โค้ชมาโน โพลกิง ยอมรับว่า พอใจกับผลการแข่งขันที่ออกมาในเกมวันนี้ ซึ่งต้องขอชื่นชมนักเตะทุกคนที่ช่วยกันเล่น แม้เกมจะออกมาอึดอัด เพราะไทยต้องการชัยชนะทำให้หลายคนอาจจะมีความตั้งใจมาก จนกดดันตัวเอง แต่สุดท้ายสิ่งที่น่าพอใจที่สุด คือ การที่ทีมชนะ และไม่เสียประตูในเกมนี้
สำหรับเป้าหมายต่อไปของทีมชาติไทย อยู่ที่การเตรียมทีมลุยศึกคิงส์คัพ ที่ประเทศไทย ในเดือน ก.ย.นี้ โดยมีคู่แข่งอย่าง เลบานอน, อิรัก และ อินเดีย ส่วนจังหวัดใดจะเป็นเจ้าภาพจะมีการประกาศอย่างเป็นทางการจากสมาคมอีกครั้ง
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
"โค้ชมาโน่" กับสถิติคุมทีมชาติไทย ไร้ชนะ 3 นัดติด
"แจ็คกี้" มองที่มา "นายกฯบอลไทย" สรรหาแทนเลือกตั้งเทียบชั้นบอลยุโรป
บอลอังกฤษปรับกฎใบอนุญาตทำงาน ลุ้น "ศุภณัฏฐ์" ลงสนามให้ "เลสเตอร์ฯ" เร็วขึ้น