พลิกฟื้นพื้นที่รกร้าง สู่โรงเรียนปลูกผักแก้จน

ภูมิภาค
22 มิ.ย. 66
18:27
474
Logo Thai PBS
พลิกฟื้นพื้นที่รกร้าง สู่โรงเรียนปลูกผักแก้จน
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
พื้นที่โรงเรียนที่ถูกยุบ ที่ดินวัด ที่ดินหน่วยงานราชการ ที่ถูกปล่อยให้เป็นที่รกร้าง บางพื้นที่มากกว่า 10 ปี ได้ถูกพลิกฟื้นขึ้นมาอีกครั้ง สู่การใช้ประโยชน์โดยการบริหารจัดการแบบธุรกิจแบบแปลงรวม จัดสรรสำหรับครัวเรือนยากจนและมีรายได้น้อย

จากการค้นหาสอบทานข้อมูลร่วมกันระหว่างหน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนาระดับพื้นที่ (บพท.) มหาวิทยาลัยกาฬสินธุ์ รวมถึงภาคีเครือข่ายภาคราชการ เอกชน ประชาสังคม ข้อมูลครัวเรือนยากจนระดับพื้นที่ พ.ศ.2565 พบครัวเรือนยากจนในพื้นที่ อ.นามน จ.กาฬสินธุ์ มีจำนวนทั้งสิ้น 321 ครัวเรือน ระดับวิกฤตความยากจนส่วนใหญ่ อยู่ในระดับอยู่ยาก จำนวน 253 ครัวเรือน

จึงเกิดโครงการแก้จน บนฐานทุน และเสริมศักยภาพการสร้างรายได้ ผ่านโรงเรียนปลูกผักแก้จน เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงที่ดินทำกิน ช่วยเหลือชาวบ้านหลุดพ้นความยากจน มีรายได้เพียงพอกับการดำรงชีพ

การบริหารจัดการแบบธุรกิจแบบแปลงรวม

การบริหารจัดการแบบธุรกิจแบบแปลงรวม

การบริหารจัดการแบบธุรกิจแบบแปลงรวม

รวมถึงพัฒนาศักยภาพธุรกิจชุมชน เกิดแนวทางการดำเนินงานในการบริหารจัดการเครือข่ายวิสาหกิจชุมชน และเชื่อมโยงครัวเรือนยากจนในการพัฒนาอาชีพ ธนาคารชุมชน การปลูกผักปลอดจากสารพิษตามมาตรฐาน GAP สารชีวภัณฑ์ การบริหารจัดการแปลงรวม การแปรรูปผลผลิต การเลี้ยงสัตว์เพื่อจำหน่าย รวมถึงการตลาดด้วย

อ่านข่าว : บพท.จับมือ ม.กาฬสินธุ์ แก้จนลดเหลื่อมล้ำใช้ข้อมูลจริงสร้างงาน-เสริมแกร่งฐานราก

ต้องลงมือทำให้ดู

นายประครอง แจ่มสุวรรณ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 6 บ้านดงสว่าง ต.สงเปลือย อ.นามน จ.กาฬสินธุ์ เล่าว่า เมื่อมีโครงการโรงเรียนปลูกผักไร้จน ชาวบ้านก็มีความคิดเห็นหลากหลาย ทั้งให้ความร่วมมือเข้าร่วมโครงการ และคนที่ไม่เห็นด้วย จึงเป็นจุดเริ่มต้นที่ลงมือทำเพื่อให้ชาวบ้านได้เห็น ว่าโครงการนี้ได้ผลจริง

แรกเริ่มไม่มีทุนก็ค่อยๆ ทำไปเรื่อยๆ และมีทาง ม.กาฬสินธุ์ สนับสนุนด้านเมล็ดพันธุ์
ประครอง แจ่มสุวรรณ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 6 บ้านดงสว่าง ต.สงเปลือย อ.นามน จ.กาฬสินธุ์

ประครอง แจ่มสุวรรณ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 6 บ้านดงสว่าง ต.สงเปลือย อ.นามน จ.กาฬสินธุ์

ประครอง แจ่มสุวรรณ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 6 บ้านดงสว่าง ต.สงเปลือย อ.นามน จ.กาฬสินธุ์

แรงจูงใจเกิดขึ้นเมื่อได้เห็นผักที่ปลูกเจริญงอกงาม จนทำให้ชาวบ้านเริ่มทำตามกันหลายครัวเรือน ครั้งแรกที่เริ่มทำก็ประสบปัญหาการขาดน้ำ และแก้ปัญหาโดยการเจาะบ่อบาดาล 1 บ่อ แต่น้ำก็ไม่เพียงพอ ต้องเจาะเพิ่มอีก 1 บ่อ

เดิมทีชาวบ้านมีอาชีพทำไร่ ทำนา เป็นหลัก แต่ก็ต้องเพิ่งพาน้ำฝนเป็นหลัก ช่วงหน้าแล้งก็ต้องออกไปรับจ้างทำงานนอกพื้นที่ ทำไร่มัน ไร่อ้อย แต่ปัจจุบันชาวบ้านอยู่ในพื้นที่ และสามารถมีรายได้ตลอดทั้งปี

โรงเรียนปลูกผักแก้จน

โรงเรียนปลูกผักแก้จน

โรงเรียนปลูกผักแก้จน

ปลูกผักรายได้เพิ่ม-ปลดหนี้

ธิติพร พิกุลหอม ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 15 ต.สงเปลือย อ.นามน จ.กาฬสินธุ์ และผู้วางแผนการผลิตวิสาหกิจชุมชน เล่าถึงการจัดสรรพื้นที่ให้กับชาวบ้าน รวมทั้งหมด 38 แปลง จัดสรรให้ชาวบ้านไม่เกินคนละ 2 แปลง โดยจะมีพี่เลี้ยงในการดูแล และคอยให้คำแนะนำ

ชาวบ้านในพื้นที่ส่วนใหญ่มีปัญหาหนี้สินจากการกู้ยืมเงินมาทำเกษตร จากการซื้อเมล็ดพันธุ์ จากปุ๋ยเคมี เมื่อมีโครงการปลูกผักแก้จนเข้ามา การทำงานมีระบบ มีการวางแผน ช่วยเหลือกัน

เมื่อขายผักได้ชาวบ้านมีรายได้เพิ่มขึ้น ลดการเป็นหนี้ ลดเล่นการพนัน โดยรายได้ เฉลี่ยต่อคนอาทิตย์ละ 1 พันคน
ธิติพร พิกุลหอม ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ม.15

ธิติพร พิกุลหอม ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ม.15

ธิติพร พิกุลหอม ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ม.15

ผักที่ปลูก จะเป็นต้นหอม ผักชี ผักบุ้ง มะเขือ ผักสลัด และผักต่างๆ ที่หมุนเวียนไป ซึ่งเป็นผักปลอดสารพิษ ส่วนปุ๋ยใช้ปุ๋ยคอกที่มาจากการเลี้ยงสัตว์ของชาวบ้าน สำหรับผลผลิตที่ได้จะจำหน่ายทั้งในชุมชนและนอกพื้นที่ และยังส่งขายตามร้านค้าต่างๆ รวมถึงห้างสรรพสินค้าด้วย

นอกจากขายแล้ว ชาวบ้านได้บริโภคผักที่ตัวเองปลูกเอง ทำให้มั่นใจว่าปลอดสารเคมีแน่นอน

โดยในอนาคตอันใกล้มีการพัฒนาขยาย การแปรรูปเพื่อเพิ่มมูลค่า ไปสู่เกษตรกรที่ยั่งยืน รวมถึงการสร้างแบรนด์ของชุมชน

ได้ดึงเกษตรกรเข้ามามีส่วนร่วม จากคนที่หันหลังให้กัน ตอนนี้มาช่วยกันทำ ช่วยกันบริหาร
ใช้พื้นที่ของโรงเรียนที่รกร้างกว่า 10 ปี สร้างแปลงผัก

ใช้พื้นที่ของโรงเรียนที่รกร้างกว่า 10 ปี สร้างแปลงผัก

ใช้พื้นที่ของโรงเรียนที่รกร้างกว่า 10 ปี สร้างแปลงผัก

ต้นกล้าท้าจน

นายภูเบศ กุละอิ่ม อายุ 19 ปี หนึ่งในครอบครัวคนจนที่อยู่ในระบบข้อมูลสอบทาน เล่าว่า เรียนจบชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ก็ต้องทำงานช่วยเหลือครอบครัว โดยรับจ้างทั่วไปได้รายได้วันละ 200-250 บาท

ปัจจุบันอาศัยอยู่กับย่า อายุ 70 ปี ภูเบศจึงไม่อยากออกไปทำงานต่างพื้นที่ไกลๆ เพราะเป็นห่วงย่า เมื่อทางมหาวิทยาลัยกาฬสินธุ์มีโครงการปลูกผักแก้จน จึงเข้าร่วมโครงการ โดยใช้พื้นที่บริเวณบ้านในการปลูกผักทั้งผักบุ้ง มะเขือ และผักอื่นๆ ตามฤดูกาล ก่อนที่จะมีการส่งเสริมให้มีการปลูกเห็ดนางฟ้า เลี้ยงปลา เพื่อให้มีรายได้เพิ่มขึ้น

ภูเบศ กุละอิ่ม

ภูเบศ กุละอิ่ม

ภูเบศ กุละอิ่ม

ทั้งการปลูกผัก ปลูกเห็ด และเลี้ยงปลา จะมีอาจารย์จากมหาวิทยาลัยกาฬสินธุ์ รวมถึงมีพี่เลี้ยงที่คอยดูแล และสนับสนุน รวมถึงสมาชิกในกลุ่มที่คอยช่วยเหลือและให้คำแนะนำต่างๆ ซึ่งปลูกผักกับโครงการปลูกผักแก้จนเข้าสู่ปีที่ 3 แล้ว

รู้สึกดีใจมาก ที่ทุกคนเห็นความสำคัญมาก คอยดูแล ช่วยเหลือตลอด เหมือนเป็นครอบครัวกัน
ภูเบศ กุละอิ่ม ปลูกเห็ดสร้างอาชีพ

ภูเบศ กุละอิ่ม ปลูกเห็ดสร้างอาชีพ

ภูเบศ กุละอิ่ม ปลูกเห็ดสร้างอาชีพ

จากที่ต้องออกไปรับจ้างนอกพื้นที่ไม่ว่าจะปลูกมัน ตัดอ้อย ตัดหญ้า รับจ้างทั่วไปที่มีคนจ้าง ออกจากบ้านตั้งแต่เช้า กว่าจะกลับเข้าบ้านก็เย็นมาแล้ว และเป็นการทำงานให้กับคนอื่น แต่ตอนนี้ปลูกผักอยู่ที่บ้านเป็นการทำเพื่อตัวเอง ปลูกผักไว้กิน และไว้ขาย มีรายได้เพิ่มขึ้น และที่สำคัญมีเวลาอยู่บ้านเพื่อดูแลย่า

ดีใจมากไม่คิดว่าจะสามารถแก้จนได้ขนาดนี้ ทำแล้วมีความสุข

นอกจากนี้กำลังศึกษาอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ที่ กศน.นานม และยังได้รับรางวัลคนดีศรีกาฬสินธุ์ ยึดหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง และห่างไกลยาเสพติดอีกด้วย

รู้สึกภูมิใจที่ทำได้เพื่อเป็นแบบอย่างให้แก่ เด็ก เยาวชน เพื่อนๆ พี่ๆ ยืนยันว่าไม่เลิกทำอาชีพเกษตรกรแน่นอน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :

ม.กาฬสินธุ์ สถาบันการศึกษารับใช้ชุมชน เร่งบูรณาการแก้ภัยแล้ง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง