"เรืองไกร" ยื่น ปธ.สภา ค้านเสนอ "พิธา" โหวตนายกรอบ 2

การเมือง
17 ก.ค. 66
12:51
831
Logo Thai PBS
"เรืองไกร" ยื่น ปธ.สภา ค้านเสนอ "พิธา" โหวตนายกรอบ 2
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
"เรืองไกร" เบรกรัฐสภาชง "พิธา" โหวตนายกฯ รอบ 2 ชี้ถูกตีตกไปแล้ว ขาดคุณสมบัติ ขัด รธน. - ขู่ฟ้อง ป.ป.ช.สอบ ส.ว.-ส.ส. ที่ลงมติเห็นด้วย

วันนี้ (17 ก.ค.2566) นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ยื่นหนังสือถึงประธานรัฐสภา เพื่อพิจารณายับยั้งการเสนอชื่อนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เพื่อพิจารณาเป็นนายกรัฐมนตรี ครั้งที่ 2 ในการประชุมรัฐสภา วันที่ 19 ก.ค.นี้ เนื่องจากนายพิธา ไม่ได้รับความเห็นชอบจากรัฐสภา ให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี หรือถูกตีตกไปแล้ว และ 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล ก็ยังจะให้โอกาสนายพิธา เป็นครั้งที่ 2 จึงเห็นว่า อาจจะขัดต่อรัฐธรรมนูญ และข้อบังคับการประชุมรัฐสภา เพราะฝ่ายกฎหมายของรัฐสภา อยู่ระหว่างการศึกษาว่า ญัตติที่ถูกรัฐสภาตีตกไปแล้ว รัฐสภาจะสามารถพิจารณาใหม่ในสมัยประชุมเดิม เว้นแต่ประธานรัฐสภาจะอนุญาต ตามข้อบังคับการประชุมรัฐสภา ข้อ 41 ได้หรือไม่

นายเรืองไกร ยังเสนอว่าจะต้องไปพิจารณาข้อบังคับการประชุมรัฐสภา ข้อที่ 36 ประกอบ 136 เพื่อให้เกิดความชัดเจนว่า การพิจารณาให้ความเห็นชอบบุคคลเป็นนายกรัฐมนตรี ส.ส. จะต้องเสนอรายชื่อบุคคล ที่มีคุณสมบัติ และไม่มีลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ แต่กรณีของนายพิธานั้น ได้ถูกคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. ส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยคุณสมบัติ และลักษณะต้องห้าม จากการถือครองหุ้นสื่อมวลชนแล้ว

เรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ยื่นหนังสือถึงประธานรัฐสภา

เรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ยื่นหนังสือถึงประธานรัฐสภา

เรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ยื่นหนังสือถึงประธานรัฐสภา

ดังนั้น จึงไม่ควรเสนอชื่อนายพิธา ตั้งแต่การประชุมรัฐสภาครั้งแรก เมื่อ 13 ก.ค. ที่ผ่านมาแล้ว และในการประชุมวันที่ 19 ก.ค. นี้ ขอให้ ส.ส. และ ส.ว. ระมัดระวังในการลงมติด้วย เพราะตามรัฐธรรมนูญมาตรา 89 ระบุไว้ว่า การเสนอชื่อนายกรัฐมนตรี จะต้องมีคุณสมบัติถูกต้อง แต่หากนายพิธา ที่มีตำหนิแล้ว รัฐธรรมนูญให้ถือว่า ไม่มีการเสนอชื่อบุคคลนั้น ซึ่งหากกระบวนการรัฐสภา ยังจะรอคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ ก็อาจจะมีผลกระทบต่อการนำชื่อผู้ขาดคุณสมบัติขึ้นทูลเกล้าฯ ได้

ส่วนประธานรัฐสภา จะสามารถใช้อำนาจชี้ขาดให้ 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล เสนอชื่อนายพิธาซ้ำอีกครั้งได้หรือไม่นั้น นายเรืองไกร เห็นว่า ตามคำร้องที่ยื่นยับยั้งนั้น ประธานรัฐสภา ไม่สามารถใช้อำนาจได้ พร้อมขอให้ประธานรัฐสภา ฟังความเห็นทางกฎหมายจากนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา ในฐานะรองประธานรัฐสภา หรือฝ่ายกฎหมายของรัฐสภาเป็นหลักด้วย เนื่องจาก มีความเชี่ยวชาญทางกฎหมายมากกว่า

นายเรืองไกร ยังเปิดเผยด้วยว่า ก่อนหน้านี้ ตนเองได้นำรายชื่อ ส.ส. และ ส.ว. ที่ลงมติสนับสนุนนายพิธาเป็นนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 13 ก.ค. ที่ผ่านมา ให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช.ตรวจสอบแล้ว ซึ่งหากในวันที่ 19 ก.ค. นี้ ส.ส. และ ส.ว. คนใด จะยังลงมติสนับสนุน ตนก็จะยื่นรายชื่อเพิ่มเติมให้ ป.ป.ช. ตรวจสอบการทำหน้าที่ต่อไป

เรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ

เรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ

เรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ

นายเรืองไกร ยังยืนยันด้วยว่า หลังการเปิดเผยบัญชีทรัพย์สินของนายพิธา กรณีการเข้าดำรงตำแหน่ง ส.ส. เมื่อวันที่ 14 พ.ค.2562 ของ ป.ป.ช. ตนเอง ก็จะไปรวบรวมข้อมูล เพื่อเปรียบเทียบกับการเปิดเผยบัญชีทรัพย์สิน เมื่อครั้งเข้าดำรงตำแหน่ง ส.ส. ครั้งแรก และพ้นจากตำแหน่ง ส.ส. เมื่อการยุบสภาที่ผ่านมา เพื่อตรวจสอบต่อไปด้วย

ส่วนกรณีที่มีการเรียกร้องให้นายเรืองไกร ตรวจสอบการถือครองทรัพย์สินของนายชาดา ไทยเศรษฐ์ ส.ส.อุทัยธานี พรรคภูมิใจไทย ที่พบเคยถือครองหุ้นบริษัทแห่งหนึ่ง ที่มีชื่อกิจการคล้ายกับการประกอบธุรกิจสื่อมวลชนนั้น นายเรืองไกร ยืนยันว่า ตนเองได้ไปตรวจสอบการประกอบธุรกิจดังกล่าวของนายชาดาแล้ว แต่ไม่พบข้อมูลในกรมพัฒนาธุรกิจการค้า จึงยังไม่สามารถตรวจสอบได้ พบเพียงบริษัทที่มีชื่อใกล้เคียงกัน ดังนั้น ข้อเท็จจริงจึงยังไม่เพียงพอ และต้องรอรวบรวมข้อมูลเพิ่มเติม และย้ำว่า จะติดตามตรวจสอบเรื่องดังกล่าวต่อ และการจะตรวจสอบใด ๆ นั้น จะต้องพิจารณาถึงข้อเท็จจริง มีที่มาที่ไป

นายเรืองไกร ยังกล่าวถึงกรณีที่มีมวลชนกดดันให้สมาชิกวุฒิสภาที่ลงมติงดออกเสียง ให้กับนายพิธา รวมไปถึงผู้บัญชาการเหล่าทัพ ที่ไม่ได้เดินทางไปร่วมประชุมรัฐสภาเพื่อลงมติ ให้ลาออกจากตำแหน่งว่า การลงมติงดออกเสียงของสมาชิกวุฒิสภา เป็นไปตามเอกสิทธิ ที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ จึงขอให้มวลชนที่เรียกร้องดังกล่าว ไปศึกษาหาอ่านกฎหมายด้วย ไม่ใช่เพียงแสดงความคิดเห็นกล่าวหาผู้อื่นเท่านั้น เพราะอาจจะมีความผิดทางอาญาด้วย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง : 

ถ่ายทอดสด โหวตนายกฯ ครั้งที่ 2 วันที่ 19 ก.ค.66 จับตา “พิธา” ได้เสียงเพิ่มหรือไม่

"พรเพชร" ชี้แจงเหตุ ส.ว.ลาประชุม วันโหวตนายกฯ

"อานนท์" ขอ 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล อย่าแตกแถววันโหวตนายกฯ รอบ 2

ข่าวที่เกี่ยวข้อง