ธุรกิจอสังหาฯ พุ่ง จีนทะลุอันดับ 1 ซื้อ-โอนห้องชุดในไทย

เศรษฐกิจ
25 ก.ค. 66
09:17
799
Logo Thai PBS
ธุรกิจอสังหาฯ พุ่ง จีนทะลุอันดับ 1 ซื้อ-โอนห้องชุดในไทย
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
ศูนย์วิจัยฯ อสังหาริมทรัพย์ชี้ จีนทะลุอันดับ 1 ซื้อห้องชุด ตามด้วยรัสเซีย-อเมริกา ยอดโอน 4 จังหวัดท่องเที่ยวเพิ่มร้อยละ 70 คาดผลจากเปิดประเทศ

ในรอบหลายสิบปีที่ผ่านมามีการเพิ่มขึ้นของจำนวนประชากรชาวต่างชาติ ที่เข้ามาพักอาศัยอย่างถาวรและชั่วคราว รวมไปถึงบางกลุ่มที่เข้ามาอย่างถูกกฎหมายและผิดกฎหมาย โดยจะเห็นว่า ปัจจุบันมีกลุ่มชาวต่างชาติจำนวนไม่น้อยเลือกเข้ามาประกอบกิจการธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทย

ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ หรือ REIC รายงานว่า ในไตรมาสที่ 1 ปี 2566 พบยอดการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุด เพิ่มขึ้นร้อยละ 79.2 % เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน เป็นผลจากการเปิดประเทศอย่างเต็มรูปแบบ โดยจังหวัดที่มีชาวต่างชาติโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดมากที่สุด 4 จังหวัด ตามลำดับคือ ชลบุรี กรุงเทพมหานคร ภูเก็ต และเชียงใหม่

ข้อมูลระบุว่า จังหวัดชลบุรีที่มียอดการโอนกรรมสิทธิ์อยู่ที่ 42.4 % เป็นผลจากการฟื้นฟูทางเศรษฐกิจหลังจากยุคโควิดอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในเขตศรีราชา ที่มีการเติบโตของโรงงานอุตสาหกรรม การคมนาคม ดึงดูดนักธุรกิจชาวญี่ปุ่นเข้าอยู่อาศัยเป็นจำนวนมาก จนได้รับการขนานนามว่าเป็น Little Osaka ของประเทศไทย ส่งผลให้นักลงทุนเลือกซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ภายในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง

ขณะที่ จ.ภูเก็ตที่มียอดซื้อขายเป็นอันดับสาม เนื่องจากผลกระทบปัญหาสงครามรัสเซีย-ยูเครน ทำให้ชาวรัสเซียจำนวนมากตัดสินใจกวาดซื้อวิลล่าหรู เพื่ออยู่อาศัยระยะยาวหรือนำมาปล่อยเช่าต่อ ส่งผลให้ภายในครึ่งหลังของปี 2565 มียอดขายรวมพุ่งขึ้นเป็น 129 ยูนิต สูงสุดในรอบ 5 ปี ทำลายสถิติสูงสุด ของ 2 ไตรมาสแรกในปี 2562 ที่มียอดขาย 79 ยูนิต

ทั้งนี้ข้อมูลการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดทั่วประเทศให้คนต่างชาติทั่วประเทศในช่วง 3 เดือนแรกของปี 2566 (มกราคม - มีนาคม) อ้างอิงจากข้อมูลของ REIC จะพบว่ามีการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดให้ชาวจีน เป็นมูลค่าสูงสุดจำนวน 8,191 ล้านบาท คิดเป็น 1,747 หน่วย สัดส่วน 46.3 % รองลงมาคือ รัสเซีย 387 หน่วย สัดส่วน 10.3 % สหรัฐอเมริกา 156 หน่วย สัดส่วน 4.1 % สหราชอาณาจักร 146 หน่วย สัดส่วน 3.9 % และ เยอรมัน 131 หน่วย สัดส่วน 3.5 %

ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธานศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส กล่าวว่า มาตรการเพื่อการซื้อบ้านในไทยของคนต่างชาติ ว่าในปี 2566

ประเทศไทยจะได้รับอิทธิพลจากจีนสูงมาก หากต้องการส่งเสริมให้ต่างชาติซื้อที่อยู่อาศัยในไทย และสร้างประโยชน์ในการกระตุ้นเศรษฐกิจ รัฐบาลควรมีมาตรการที่รัดกุมไม่ให้ชาวต่างชาติเอาเปรียบหรือแย่งพื้นที่คนไทยซื้อที่อยู่อาศัย

นอกจากนี้ชาวต่างชาติอื่นๆ ก็เลือกที่จะลงทุนธุรกิจโรงแรม หมู่บ้านจัดสรรค์ นายหน้าอสังหาริมทรัพย์ บริการท่องเที่ยว ผับบาร์ ร้านอาหาร สอนดำน้ำ สอนภาษา หรือแม้กระทั่งเปิดกิจการเช่ารถเช่ามอร์เตอร์ไซค์ ส่งผลให้มีชาวต่างชาติอีกหลายกลุ่มที่ยังคงทำงานอยู่ในไทย โดยถือวีซ่าท่องเที่ยวและไม่มีใบอนุญาตในการทำงาน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง