ทวิตเตอร์เดินหน้าเปลี่ยนชื่อ-โลโก้จาก "นกสีฟ้า" เป็น "X"

ต่างประเทศ
25 ก.ค. 66
07:13
15,367
Logo Thai PBS
ทวิตเตอร์เดินหน้าเปลี่ยนชื่อ-โลโก้จาก "นกสีฟ้า" เป็น "X"
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
กลายเป็นกระแสทั่วโลกออนไลน์หลังแอปพลิเคชันชื่อดังอย่าง "ทวิตเตอร์" จะไม่ใช่ทวิตเตอร์อีกต่อไป เมื่ออีลอน มัสก์ เจ้าของกิจการ ประกาศเปลี่ยนชื่อและโลโก้เป็น "X"

เมื่อวันที่ 24 ก.ค.2566 อีลอน มัสก์ เจ้าของกิจการทวิตเตอร์ ประกาศว่าจะเปลี่ยนสัญลักษณ์ของทวิตเตอร์จากรูปนกสีฟ้าเป็นรูปตัว X โดยมีการถอดป้ายตัวหนังสือคำว่า Twitter ออกจากตัวอาคารสำนักงานใหญ่ที่นครซาน ฟรานซิสโก

ก่อนหน้านี้ที่อาคารเดียวกัน มีการฉายโลโก้ตัว X ขึ้นบนตัวอาคาร หลังจากมัสก์ประกาศเปลี่ยนโลโก้ จนมีประชาชนสนใจหยุดถ่ายรูปจำนวนมาก

นอกจากการเปลี่ยนไปใช้โลโก้ใหม่เป็นตัว X สีขาวบนพื้นหลังสีดำแล้ว มัสก์ยังเปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น X Corp ภายใต้กลุ่มบริษัท X Holdings Corp ของมัสก์ ที่ดูแลกิจการอื่นๆ อีก พร้อมระบุว่าควรจะทำมาตั้งนานแล้วและต่อไปจะไม่เรียกสิ่งที่ผู้ใช้โพสต์บนช่องทางนี้ว่า ทวีต แต่จะเรียกว่า x's

โลโก้เดิมรูปนก เปลี่ยนเป็นโลโก้ใหม่รูปตัว X

โลโก้เดิมรูปนก เปลี่ยนเป็นโลโก้ใหม่รูปตัว X

โลโก้เดิมรูปนก เปลี่ยนเป็นโลโก้ใหม่รูปตัว X

มัสก์ตั้งใจจะสร้าง X ให้กลายเป็น super app ซึ่งหมายถึงแอปพลิเคชันอเนกประสงค์ที่ให้บริการหลายด้านภายในแอปฯ เดียว หลังจากเคยพูดถึงเรื่องนี้ต่อเนื่องมาสักระยะ

ก่อนหน้านี้ มัสก์ เปิดเผยว่า ทวิตเตอร์สูญเสียรายได้จากการโฆษณาลงไปประมาณครึ่งหนึ่ง นับตั้งแต่ที่เขาเข้าควบคุมกิจการ จากนั้นได้เปลี่ยนนโยบายหลายอย่างไม่ว่าจะเป็นการปลดพนักงาน การเรียกเก็บค่าใช้จ่ายสำหรับบางบริการ ไปจนถึงการจำกัดจำนวนการเข้าถึงเนื้อหาในแต่ละวัน จนทำให้บริษัทถูกวิพากษ์วิจารณ์

การเปลี่ยนโลโก้ ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่มัสก์เข้าซื้อกิจการทวิตเตอร์เมื่อเดือน ต.ค.2022 ด้วยวงเงินถึง 44,000 ล้านบาท หรือมากกว่า 1.5 ล้านล้านบาท

นักวิเคราะห์ชี้เปลี่ยนชื่อทวิตเตอร์ส่อผลเชิงลบ

ด้านนักวิเคราะห์ มองว่า ความเคลื่อนไหวครั้งนี้อาจทำให้แพลตฟอร์มนี้สูญเสียความเชื่อมั่นของผู้ใช้งานที่ใช้เวลาสร้างมานานหลายปี และความเปลี่ยนแปลงต่างๆ ที่เกิดขึ้นในทวิตเตอร์ช่วงระยะหลังต่างมีแนวโน้มจะผลักให้ผู้ใช้หันไปเลือกหาทางเลือกใหม่ๆ ในตลาด ไม่ว่าจะ Threads, Blue Sky, Mastodon

นอกจากนี้ ภาพลักษณ์ของแพลตฟอร์มยังต่างออกไปโดยสิ้นเชิง จากเดิมเป็นนกสีฟ้า ตอนนี้เป็นขาวดำ ในมุมมองของนักวิเคราะห์จะให้ภาพลักษณ์ที่ต่างออกไปอย่างสุดขั้ว ซึ่งหลายคนเชื่อว่าผู้ใช้งานไม่น่าจะถูกใจเท่าไร

อย่างไรก็ตาม โดยรวมแล้วการตัดสินใจครั้งนี้ของมัสก์นับว่ามีความเสี่ยง แต่ก็อาจตอบโจทย์หากจะมองว่าการเปลี่ยนโลโก้ เปลี่ยนชื่อแอปฯ ครั้งนี้ จะช่วยเบี่ยงเบนความสนใจ จากเรื่องที่ว่าเขาขาดทุนไปเท่าไรกับแอปฯ นี้และเหมือนเป็นไม้ตายสุดท้ายในการเข้ามาสร้างความเปลี่ยนแปลงในกิจการนี้ที่มัสก์ซื้อ

อ่านข่าวอื่นๆ

ไฟป่ายังปะทุที่กรีซ - สหรัฐฯ สูญเสียพื้นที่ป่ากว่า 1.2 แสนไร่

จับตา "กัมพูชา" ฝ่ายค้านหวัง "ฮุน มาเนต" สร้างความเปลี่ยนแปลง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง