วันแม่ 2566 : หนุนเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ล้วนถึง 6 เดือน หลังพบเด็กได้กินเพียง 28%

สังคม
4 ส.ค. 66
16:29
821
Logo Thai PBS
วันแม่ 2566 : หนุนเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ล้วนถึง 6 เดือน หลังพบเด็กได้กินเพียง 28%
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
กรมอนามัย รณรงค์ให้ลูกกินนมแม่ตั้งแต่หลังคลอดจนถึงอายุ 6 เดือน และกินนมแม่ต่อเนื่องร่วมกับอาหารตามวัย ถึง 2 ปี เพราะนมแม่คืออาหารที่ดีที่สุดสำหรับทารก ช่วยในการเจริญเติบโตและสร้างภูมิคุ้มกัน ขณะที่ปี 2565 อัตราการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียว 6 เดือน 28.6%

นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยว่า จากการสํารวจสถานการณ์เด็กและสตรีในประเทศไทย ปี 2562 (MICs6) พบว่า อัตราการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียว 6 เดือน (EBF rate) เท่ากับร้อยละ 14.0 และเพิ่มขึ้นในปี 2565 (MICs7) เท่ากับ ร้อยละ 28.6 แม้ว่าแนวโน้มการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียวในประเทศไทยจะเพิ่มขึ้น แต่ยังไม่ถึงเป้าหมายที่ไทยและทั่วโลกกำหนดไว้ คือ เด็กไทยอย่างน้อยร้อยละ 50 กินนมแม่อย่างเดียวตั้งแต่แรกเกิดจนถึง 6 เดือน

ซึ่งจากผลการสำรวจ พบว่า ปัจจัยและสาเหตุสำคัญที่ทำให้การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ในประเทศไทยไม่สำเร็จ ได้แก่ แม่ต้องกลับไปทำงาน เพราะสิทธิการลาคลอดของแม่สามารถลาคลอดได้เพียง 98 วัน (ประมาณ 3 เดือน) หรือส่วนหนึ่งแม่มีความเชื่อมั่นในการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ลดลง เชื่อว่าน้ำนมตนเองไม่เพียงพอ และไม่มีความรู้เพียงพอ ซึ่งต้องอาศัยความร่วมมือของทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม ในการขับเคลื่อนไปด้วยกัน

วันแม่ 2566 : หนุนเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ล้วนถึง 6 เดือน หลังพบเด็กได้กินเพียง 28%

วันแม่ 2566 : หนุนเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ล้วนถึง 6 เดือน หลังพบเด็กได้กินเพียง 28%

วันแม่ 2566 : หนุนเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ล้วนถึง 6 เดือน หลังพบเด็กได้กินเพียง 28%

นพ.สุวรรณชัย กล่าวต่อไปว่า กรมอนามัยสนับสนุนให้เด็กทุกคนได้กินนมแม่อย่างต่อเนื่องตามคำแนะนำขององค์การอนามัยโลก คือ กินนมแม่ตั้งแต่ 1 ชั่วโมงแรกหลังคลอด กินนมแม่เพียงอย่างเดียวในช่วง 6 เดือนแรก และกินนมแม่ต่อเนื่องควบคู่อาหารตามวัยจนถึงอายุ 2 ปี หรือนานกว่านั้น เพราะนมแม่หยดแรกเปรียบเสมือนวัคซีนในการป้องกันโรค เพราะมีภูมิคุ้มกันโรคที่ไม่สามารถหาได้จากนมผง มีคุณค่าทางโภชนาการสูงที่ช่วยในการเจริญเติบโตและสร้างภูมิคุ้มกันโรคให้เด็ก

ทั้งนี้หลัง 6 เดือนเป็นต้นไป ควรให้เด็กกินอาหารในปริมาณน้อยๆ และมีความเหลว เพื่อให้ง่ายต่อการฝึกกลืนและกระบวนการย่อย เนื่องจากระบบย่อยอาหารของเด็กยังไม่สมบูรณ์ หากกินอาหารไม่ถูกต้องอาจทำให้ท้องอืด อาหารไม่ย่อย ท้องผูก ท้องเสีย แพ้อาหารและเสี่ยงต่อการเสียชีวิตจากลำไส้อุดตันได้

วันแม่ 2566 : หนุนเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ล้วนถึง 6 เดือน หลังพบเด็กได้กินเพียง 28%

วันแม่ 2566 : หนุนเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ล้วนถึง 6 เดือน หลังพบเด็กได้กินเพียง 28%

วันแม่ 2566 : หนุนเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ล้วนถึง 6 เดือน หลังพบเด็กได้กินเพียง 28%

ปัจจุบันผู้หญิงมีบทบาทในการทำงานนอกบ้านมากขึ้น จึงส่งผลกระทบให้การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ลดลง เพื่อให้แม่สามารถเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ได้ตามความต้องการ

อีกทั้ง การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ยังช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย เพราะนมแม่สามารถผลิตได้เองโดยไม่มีค่าใช้จ่าย สามารถให้ลูกกินได้ทุกที่ ทุกเวลา

นอกจากนั้น การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ ยังได้รับการพิสูจน์แล้วว่าเป็นปัจจัยที่สำคัญต่อการเจริญเติบโต พัฒนาการทั้งร่างกายและสมองและเป็นรากฐานแห่งชีวิตที่ดี ในระยะยาวของแม่และลูก

ข่าวที่เกี่ยวข้อง : 

12 สิงหาคม "วันแม่แห่งชาติ" มีความเป็นมาอย่างไร

เช็ก! วันหยุดราชการ วันหยุดยาว สิงหาคม-ธันวาคม 2566

วันหยุดเดือนสิงหาคม 2566 เช็กวันหยุดยาว วันหยุดธนาคาร วันพระ

ปฏิทินวันหยุดปี 2567 วันหยุดราชการ วันหยุดยาว

อัปเดตครึ่งปีหลัง! ปฏิทินวันจ่ายเงินเดือน ขรก. เงินบำนาญ เงินเดือนทหาร ออกวันไหน?

ข่าวที่เกี่ยวข้อง