เปิดทำเนียบ 13 ผู้นำ"อธิบดีกรมตำรวจ" สู่ "ผบ.ตร."

สังคม
18 ส.ค. 66
14:35
39,840
Logo Thai PBS
เปิดทำเนียบ 13 ผู้นำ"อธิบดีกรมตำรวจ" สู่ "ผบ.ตร."
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
เปิดทำเนียบเจ้ากรมปทุมวัน จาก "อธิบดีกรมตำรวจ" สู่ "ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ตั้งแต่ยุคแรกจนถึงปัจจุบัน มีรายชื่อบันทึกอยู่ 13 คน ดังนี้

คนที่ 1 พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก 16 ต.ค.2541 – 30 ก.ย.2543 

พล.ต.อ.ประชา อดีตรองนายกรัฐมนตรี (ฝ่ายความมั่นคง) และอดีต รมว.ยุติธรรม ในสมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคเพื่อไทย อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม และอดีตหัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดิน 

พล.ต.อ.ประชา เป็นชาว จ.นครราชสีมา เป็นนายตำรวจมือปราบมีฉายาว่า "อินทรีอีสาน" เป็นทั้งอธิบดีกรมตำรวจคนสุดท้าย และเป็น ผบ.ตร. คนแรกของประเทศไทย เนื่องจากมีตำแหน่งสูงสุดในช่วงที่ปรับเปลี่ยนสถานะของ กรมตำรวจ เป็น สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในปี 2541 

คนที่ 2 พล.ต.อ.พรศักดิ์ ดุรงควิบูลย์ 1 ต.ค.2543 – 30 ก.ย.2544 

อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ตั้งแต่ พ.ศ.2543 ถึง พ.ศ.2544 ต่อจาก พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก ซ้ำยังเป็นเพื่อนนักเรียนเตรียมทหารรุ่น 2 และนักเรียนนายร้อยรุ่นที่ 18 เหมือนกัน ภายหลังพ้นจากตำแหน่ง ไม่มีรายละเอียดระบุว่าเข้าร่วมเล่นการเมือง

คนที่ 3 พล.ต.อ.สันต์ ศรุตานนท์ 1 ต.ค.2544 – 30 ก.ย.2547 

โรงเรียนนายร้อยตำรวจในปี 2510 ดำรงตำแหน่ง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ  ในปี 2544 - 2547 สันต์ ศรุตานนท์ หลักจากนั้นเมื่อเกิดการเลือกตั้งและการเมืองเปลี่ยนขั้วอำนาจ จึงถูก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ย้ายไปช่วยราชการสำนักนายกรัฐมนตรีจนเกษียณอายุราชการ 

นอกจากนี้ พล.ต.อ.สันต์ ยังเคยเป็นนายกสมาคมกรีฑาแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์, ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์สมาคมขี่ม้าโปโลแห่งประเทศไทย อดีตราชองครักษ์พิเศษ

คนที่ 4 พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ 1 ต.ค.2547 – 22 เม.ย.2550 

รับช่วงต่อ นั่งเก้าอี้รักษาการจนกระทั่ง พล.ต.อ.สันต์ เกษียณเมื่อปี 2547 อดีตนายกฯ ได้แต่งตั้งให้ พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ เป็น ผบ.ตร.คนต่อมา ดำรงตำแหน่งวันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ.2547

ขณะเดียวกันในเหตุการณ์รัฐประหารประเทศไทย พ.ศ.2549 ได้รับคำสั่งไปช่วยราชการสำนักนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2550 โดยให้เหตุผลที่ว่า โกวิท วัฒนะ ไม่มีผลงานความคืบหน้าเกี่ยวกับคดีเหตุระเบิดในกรุงเทพมหานคร พ.ศ.2549 ภายหลังศาลปกครองพิจารณาว่าท่านอยู่ในตำแหน่งจนเกษียณอายุราชการ ในวันที่ 30 กันยายน พ.ศ.2550

งานด้านการเมืองในปี พ.ศ. 2551 พล.ต.อ.โกวิท ได้รับแต่งตั้งเป็น รมว.มหาดไทย ในรัฐบาลของนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ซึ่งต่อมา ศาลรัฐธรรมนูญได้มีคำวินิจฉัย ให้ยุบพรรคพลังประชาชน และตัดสิทธิทางการเมืองหัวหน้าพรรค และกรรมการบริหารพรรค 5 ปี ทำให้นายสมชาย และคณะรัฐมนตรีทั้งคณะต้องพ้นจากตำแหน่งรวมถึง พล.ต.อ. โกวิท ด้วย

นอกจากนี้ พล.ต.อ.โกวิท เคยดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน เมื่อ พ.ศ. 2537 ก่อนจะดำรงตำแหน่งรองผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เมื่อ พ.ศ. 2543 ได้คุมพื้นที่ชายแดนภาคใต้ 

คนที่ 5 พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส 1 ต.ค.2550 – 8 เม.ย.2551 

อดีตเจ้าของฉายา "วีรบุรุษนาแก" และ "มือปราบตงฉิน" ทันทีที่ พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ หลุดจากเก้าอี้ เสรีพิศุทธ์ ได้รับแต่งตั้งให้รักษาการตำแหน่ง ผบ.ตร. ในวันที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2550 คุมตำรวจ ต่อมารัฐบาล "นายสมัคร" ได้ทำการสั่งย้ายไปประจำสำนักนายกฯ และตั้งคณะกรรมการสอบสวนความผิดวินัยร้ายแรง ก่อนมีคำสั่งปลดออกจากตำแหน่งในเดือน เม.ย.2551  โดยให้ พล.ต.อ. พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รอง ผบ.ตร. เป็นผู้รักษาราชการแทน

คนที่ 6 พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ 8 เม.ย.2551 – 30 ก.ย.2552 

พล.ต.อ.พัชรวาท ดำรงตำแหน่งเมื่อวันที่ 8 เมษายน พ.ศ.2551 ขณะที่ ในรัฐบาล นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ได้ย้าย พล.ต.อ.พัชรวาท ไปช่วยราชการสำนักนายกฯ ต่อมา 21 ธ.ค. 2551 นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รักษาการนายกฯ มีคำสั่งให้กลับคืนสู่ตำแหน่งเดิม เป็น ผบ.ตร. คนแรกที่ถูกสั่งย้ายแล้วได้กลับคืนสู่ตำแหน่ง

กระทั่งเมื่อเดือน ก.ย. 2552 พล.ต.อ.พัชรวาท ยังไม่พ้นวิกฤต เมื่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ลงมติว่า พล.ต.อ.พัชรวาท ผิดอาญารวมทั้งผิดวินัยร้ายแรง กรณีสั่งสลายผู้ชุมนุมกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม  ต่อมา พล.ต.อ. พัชรวาท ได้ลาออกจากตำแหน่ง ผบ.ตร. นับว่าเป็น ผบ.ตร.คนแรกที่ทำงานกับนายกรัฐมนตรีถึง 3 คน ได้แก่ นายสมัคร สุนทรเวช นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ และนาย อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ 

คนที่ 7 พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี 2 ก.ย.2553 – 14 ต.ค.2554 

ในวันที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2553 ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ (กตช.) ได้มีมติเห็นชอบตามที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีเสนอชื่อ พล.ต.อ.วิเชียร ดำรงตำแหน่ง ผบ.ตร.คนใหม่ ด้วยมติเอกฉันท์ หลังจากที่ตำแหน่งนี้ว่างเว้นมายาวนานเกือบ 1 ปี 

จากนั้นในวันที่ 6 กันยายน ปีเดียวกัน มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯให้ พล.ต.อ.วิเชียรดำรงตำแหน่ง ผบ.ตร. อย่างเป็นทางการ โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 2 กันยายน ปีเดียวกัน

คนที่ 8 พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ 26 ต.ค.2554 – 30 ก.ย.2555 

ภายหลังคืนอำนาจให้ประชาชน ปลดล็อกเลือกตั้งเข้าสู่รัฐบาล นายกฯ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ นั่งเก้าอี้เป็นรักษาการ ผบ.ตร. เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม พ.ศ.2554 ก่อนจะขึ้นเป็นตัวจริงในวันที่ 26 ตุลาคม พ.ศ.2554 ภายหลังเกษียณอายุราชการแล้ว พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ สมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม พ.ศ.2555

พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ มีผลงานโดดเด่นด้านการปราบปรามยาเสพติดตามนโยบายทำสงครามกับยาเสพติดในสมัยรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และเติบโตก้าวหน้าในตำแหน่งหน้าที่ราชการอย่างมาก โดยได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรอง ผบ.ตร. ติดยศ พล.ต.อ. ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2547 

คนที่ 9 พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว 1 ต.ค.2555 – 24 พ.ค.2557 

ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง ผบ.ตร. เมื่อ 1 ตุลาคม พ.ศ.2555 ต่อจาก พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ซึ่งเกษียณอายุราชการ เมื่อวันที่ 30 กันยายน พ.ศ.2555 ต่อมาในวันที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ.2557 พล.ต.อ.อดุลย์ กลับกลายเป็นหนึ่งในผู้ทำการรัฐประหารในนามคณะรักษาความสงบแห่งชาติในฐานะรองหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ

แต่หลังจากนั้น 2 วัน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ได้ออกคำสั่งให้ พล.ต.อ.อดุลย์ พ้นจากตำแหน่ง ผบ.ตร. เข้าไปปฏิบัติหน้าที่ที่สำนักนายกรัฐมนตรี โดยมี พล.ต.อ.ดร.วัชรพล ประสารราชกิจ รอง ผบ.ตร.เป็นผู้รักษาราชการแทน แต่ยังคงดำรงตำแหน่งรองหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ 

คนที่ 10 พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง 1 ต.ค.2557 – 30 ก.ย.2558 

รับไม้ต่อนั่งเก้าอี้ ผบ.ตร. คนที่ 10 ของประเทศไทย เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ.2557 พล.ต.อ.สมยศ รับราชการตำรวจครั้งแรก ในตำแหน่ง รองสารวัตรสอบสวน สถานีตำรวจนครบาลพระโขนง และได้ดำรงตำแหน่งสำคัญ ๆ ในกรมตำรวจ เช่น ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง, ผู้ช่วยผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง

นอกจากนี้ พล.ต.อ.สมยศ ยังได้มีการเลือกตั้งนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ คนที่ 17 เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559 

คนที่ 11 พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา 1 ต.ค.2558 – 30 ก.ย.2563 

เริ่มดำรงตำแหน่ง ผบ.ตร. ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ.2558 พล.ต.อ.จักรทิพย์ เริ่มต้นรับราชการจากตำแหน่ง นายเวรผู้บังคับการประจำกรมตำรวจ สำนักงานกำลังพล และสารวัตรแผนกสายตรวจรถยนต์และรถจักรยานยนต์ กองกำกับการสายตรวจ จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2537– 2538 ได้ย้ายเข้าสู่กองปราบปรามในตำแหน่งรองผู้กำกับ ในปี พ.ศ. 2539 ได้เป็นนายเวรอธิบดีกรมตำรวจ (พล.ต.อ.พจน์ บุณยะจินดา) จากนั้นได้ทำงานในตำแหน่งงานด้านต่าง ๆ โดยเฉพาะงานด้านปราบปราม

ในวันที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2563 มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าแต่งตั้งเป็น นายตำรวจราชองครักษ์พิเศษ ซึ่งเป็นตำแหน่งสุดท้ายของ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ก่อนเกษียณอายุราชการ

คนที่ 12 พ.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข 1 ต.ค.2563 – 30 กันยายน พ.ศ. 2565 

พล.ต.อ.สุวัฒน์ เป็นนักเรียนเตรียมทหารรุ่นที่ 20 รุ่นเดียวกับ พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก และนักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่นที่ 36 รุ่นเดียวกับ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ

รับราชการครั้งแรกเป็น รองสว.สน.หัวหมาก ปี 2526 กระทั่ง ปี 2552 ดำรงตำแหน่ง ผู้บังคับการ กองบังคับการอำนวยการถวายความปลอดภัย ต่อมาใน ปี 2562 ได้รับตำแหน่งเป็น รอง ผบ.ตร. ก่อนรับตำแหน่ง ผบ.ตร. เมื่อ 1 ต.ค.2563 

พล.ต.อ.สุวัฒน์ คลุกคลีทำงานด้านการสืบสวนมานาน ทำคดีสำคัญ เช่น คดีระเบิด วินาศกรรมใน กทม. คดีดังล่าสุดเหตุกราดยิงที่โคราช พล.ต.อ.สุวัฒน์ ทำหน้าที่บัญชาการเหตุการณ์เคียงข้าง พล.ต.อ.จักรทิพย์ รวมถึง คดีน้องชมพู่ ที่ลงไปบัญชาการด้วยตัวเอง 

คนที่ 13 พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์  1 ตุลาคม พ.ศ. 2565 – ปัจจุบัน

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ เริ่มต้นรับราชการในตำแหน่ง รองสารวัตรสืบสวนสอบสวน สถานีตำรวจนครบาลพลับพลาไชย 2 เมื่อปี พ.ศ. 2528 จากนั้น เป็น ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เมื่อปี พ.ศ. 2563 

กระทั่งเมื่อวันที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2565 ในการประชุมคณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ(ก.ต.ช.) ซึ่งมี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี รักษาการนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในที่ประชุม ที่ประชุมมีมติเลือก พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ ให้ดำรงตำแหน่ง ผบ.ตร. คนที่ 13 สืบต่อจาก พล.ต.อ.สุวัฒน์ ที่เกษียณอายุราชการ ในวันที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2565

อ่านข่าว 

เปิด 4 นายพลตัวเต็ง ลุ้นชิงเก้าอี้ ผบ.ตร. คนที่ 14

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง