“10 ปี เขต ศก.พิเศษอีสาน” ไปต่อหรือพอแค่นี้?

ภูมิภาค
25 ส.ค. 66
09:22
1,761
Logo Thai PBS
“10 ปี เขต ศก.พิเศษอีสาน” ไปต่อหรือพอแค่นี้?
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
เขตเศรษฐกิจพิเศษภาคอีสานยังไปไม่ถึงฝั่งฝัน รัฐ-เอกชนมองคนละมุม ต้องแก้ไขทั้งระเบียบและกระบวนการ ขณะที่การเตรียมพื้นที่หลายแห่งเป็นหมัน มีคนซื้อซองประกวดราคา แต่ถึงเวลาไม่มีใครมายื่นซอง

ปี 2558 รัฐบาล คสช.ภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มีแผนขยายการลงทุนกิจการด้านอุตสาหกรรมไปยังทุกภูมิภาค เพื่อกระตุ้นให้เกิดการค้า การลงทุน และการจ้างงานในพื้นที่ ด้วยการประกาศให้จังหวัดที่อยู่ติดแนวชายแดนประเทศเพื่อนบ้าน เป็นเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ

เฟสแรกประกาศ 5 จังหวัดนำร่อง 1 ในนั้น คือ “มุกดาหาร” ครอบคลุม 11 ตำบลใน 3 อำเภอ
เฟสที่ 2 ประกาศในปีถัดมา ภาคอีสาน มี หนองคาย และนครพนม แต่ละจังหวัดครอบคลุม 13 ตำบลใน 2 อำเภอ

บริเวณที่ถูกประกาศเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษ ส่วนใหญ่จะเป็นที่ป่าสาธารณประโยชน์ ที่ นสล.ประเภททำเลเลี้ยงสัตว์ ก่อนหน้านี้มีชาวบ้านเข้าไปใช้ประโยชน์ ทั้งหาของปลา เลี้ยงสัตว์ หรือทำการเกษตรในที่ดินของรัฐ

พื้นที่เตรียมทำเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคอีสาน

พื้นที่เตรียมทำเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคอีสาน

พื้นที่เตรียมทำเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคอีสาน

แต่เมื่อปี 2558 มีการเพิกถอนที่ป่าสาธารณะ หรือที่ดินของรัฐ ให้กลายเป็นที่ราชพัสดุ เพื่อให้กรมธนารักษ์สามารถเปิดให้เอกชนเข้ามาเช่าพื้นที่ เพื่อพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษ

ระหว่างนี้ ภาครัฐได้เร่งพัฒนาปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐาน ทั้งถนนหนทาง ไฟฟ้า ประปา ขยายเข้าไปในพื้นที่ที่ถูกประกาศ โดยเฉพาะ ต.คำอาฮวน อ.เมืองมุกดาหาร เนื้อที่ 1,081 ไร่ แต่จากสภาพที่เห็น พบว่า จุดที่ถูกประกาศยังไม่ได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง

3 จังหวัดภาคอีสาน ที่ถูกประกาศเป็นเขตพัฒนาเศรษฐกิจ เนื่องจากรัฐบาลมองเห็นศักยภาพ เพราะมีทำเลที่ตั้ง อยู่ติดกับประเทศเพื่อนบ้าน และมีสะพานมิตรภาพไทย-ลาวที่เชื่อมทั้ง 3 แห่ง

แต่ละแห่งมีจุดแข็งที่แตกต่างกันไป อย่างหนองคาย-นครหลวงเวียงจันทน์ ก็มีจุดแข็งในเรื่องของอุตสาหกรรมสีเขียว และสามารถขนส่งสินค้าระบบรางผ่านรถไฟไทย-ลาว-จีน

ส่วนมุกดาหาร ก็มีจุดแข็งในเรื่องของการเป็นอุตสาหกรรมแปรรูปการเกษตร อย่าง ข้าว อ้อย มันสำปะหลัง และยางพารา รวมทั้งจะกลายศูนย์กลางโลจิสติกส์ ที่เชื่อมโยงการส่งสินค้าจากทะเลจีนใต้-ไปยังมหาสมุทรอินเดีย ซึ่งเป็นเส้นทางการขนส่งข้ามทวีปที่ใกล้ที่สุด

นี่จึงเป็นหมุดหมายที่สำคัญ ที่รัฐบาลพยายามผลักดันให้เกิดเขตเศรษฐกิจตามแนวชายแดน เพื่อหวังจะกระตุ้นการค้า การลงทุนในภูมิภาค

ด้วยการให้กรมธนารักษ์ เปิดสรรหาให้นักลงทุนเข้ามาพัฒนาพื้นที่ในเขตเศรษฐกิจพิเศษ ทั้ง 3 จังหวัด โดยพบว่า ที่ผ่านมาแต่ละจังหวัด มีการเปิดประมูลไม่น้อยกว่า 3 ครั้ง ทุกครั้งจะมีภาคเอกชนมาซื้อซองประกวดราคา แต่เมื่อถึงเวลาประมูล กลับไม่มีนักลงทุนมายื่นซอง

แม้จะมีการปรับลดอัตราค่าเช่าลง จากเดิมช่วงแรก ๆ ที่กรมธนารักษ์เคาะค่าเช่าที่ดิน 24,000 บาท/ไร่/ปี ปัจจุบันเหลือเพียงไร่ละ 1,800-2,100 บาท เรียกได้ว่า ปรับลดค่าเช่าเกือบ 10 เท่าตัว

รวมถึงการเพิ่มประเภทกิจการที่จะเข้ามาลงทุน จากเดิมที่มีอยู่ 5 กิจการ ก็เพิ่มเป็น 13 กิจการ แต่ก็ยังไม่ได้รับความสนใจจากนักลงทุน

ธนโชติ โชตบุณยศักดิ์ เลขาธิการหอการค้ากลุ่มสนุก ประกอบด้วย จ.สกลนคร มุกดาหาร และนครพนม สะท้อนว่า การประกาศเขตพัฒนาเศรษฐกิจของภาครัฐ มองคนละมุมกับภาคเอกชน โดยรัฐ มองว่า การวางโครงสร้างพื้นฐาน ทั้งโครงข่ายถนน รถไฟทางคู่ สนามบิน มายังต่างจังหวัดเพื่อดึงดูดในลงทุน ซึ่งกว่าโครงสร้างพื้นฐานจะแล้วเสร็จ ก็ใช้เวลาไม่น้อยว่า 5 ปี

ธนโชติ โชตบุณยศักดิ์ เลขาธิการหอการค้ากลุ่มสนุก ประกอบด้วย จ.สกลนคร มุกดาหาร และนครพนม

ธนโชติ โชตบุณยศักดิ์ เลขาธิการหอการค้ากลุ่มสนุก ประกอบด้วย จ.สกลนคร มุกดาหาร และนครพนม

ธนโชติ โชตบุณยศักดิ์ เลขาธิการหอการค้ากลุ่มสนุก ประกอบด้วย จ.สกลนคร มุกดาหาร และนครพนม

แต่ในมุมมองของภาคเอกชน เห็นว่า “กระบวนการ” คือกลไกสำคัญที่จะช่วยดึงดูดนักลงทุนเข้ามา เช่น การเปิดช่องนักลงทุนสามารถเข้ามาพัฒนาพื้นที่ใดก็ได้ หากติดขัดด้านระบบระเบียบได้ ก็ไปแก้ไขให้เรียบร้อย

ที่ผ่านมา ภาคเอกชน เสนอไปยังหน่วยงานภาครัฐ กรณีไม่สามารถเดินหน้าเขตพัฒนาเศรษฐกิจได้ ก็ควรประกาศให้พื้นที่รอบสะพานมิตรภาพไทย-ลาว เป็นเขตปลอดภาษีอาการ ทั้งขาเข้าและขาออก นั่นคือ กิจการธุรกิจต่าง ๆ ที่มาตั้ง หรือจำหน่ายสินค้ารัศมี 5 กิโลเมตรรอบสะพาน สามารถขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม หรือที่เรียกว่า “Vat refund” ณ จุดเขตปลอดภาษี ตรงนี้จะช่วยปลดล็อคของคำว่า “เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ

เกือบ 10 ปีเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษใน 3 จังหวัดภาคอีสาน ยังไปไม่ถึงฝั่งฝัน จำเริญ โพธิ์ยอด อธิบดีกรมธนารักษ์ เปิดเผยว่า 31 ส.ค.-1 ก.ย.นี้ จะเปิดประชุมรับฟังความคิดเห็น (Market Sounding) เพื่อผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง เพื่อให้เสนอแนะแนวทางการพัฒนาพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษ เพื่อให้โครงการนี้เดินหน้าต่อไปได้

เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษภาคอีสาน เรียกได้ว่าเป็นเฟสแรก ภายใต้โครงการพัฒนาตามแนวระเบียงเศรษฐกิจภาคอีสาน หรือ NeEC และระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก หรือ EEC ซึ่งเป็นตามแผนของสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ที่เชื่อว่า การขับเคลื่อนการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษ จะเป็นเครื่องมือที่สำคัญในการกระจายความเจริญไปสู่ภูมิภาค

ภายใต้การพัฒนาตามแนวระเบียงเศรษฐกิจภาคอีสาน ขณะนี้ภาครัฐอยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกทางด้านโครงสร้างพื้นฐาน ทั้งทางบก เช่น การขยายถนน หรือสร้างถนนตัดใหม่ สายกาฬสินธุ์-มุกดาหาร หรือถนนสายอุดรธานี-บึงกาฬ
พื้นที่เตรียมทำเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคอีสาน

พื้นที่เตรียมทำเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคอีสาน

พื้นที่เตรียมทำเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคอีสาน

รวมถึงทางราง ทั้งรถไฟทางคู่ และรถไฟความเร็วสูง เพื่อที่จะเชื่อมโยงการขนส่งระบบราง จากภาคใต้ ภาคกลาง ภาคตะวันออก เชื่อมสู่ภาคอีสาน ไปลาว จีน และภูมิภาคอาเซียน โดยหวังว่า อนาคตหากโครงสร้างพื้นฐานแล้วเสร็จ จะกระตุ้นให้เกิดการค้า การลงทุน การเอื้อต่อการขนส่งข้ามทวีปแบบไร้รอยต่อ

รายงาน : มยุรี อัครบาล ผู้สื่อข่าวไทยพีบีเอส

อ่านข่าวอื่นๆ

ราชกิจจาฯ ประกาศ กฎ ก.พ. 2566 กำหนด "4 โรค ห้ามรับราชการ"

ผู้ถือหุ้นโรงแรมที่ตั้ง "ครูกายแก้ว" ร้องศาลย้ายรูปปั้น

ญี่ปุ่นปล่อยน้ำจากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ จีน-ฮ่องกงสั่งแบนอาหารทะเล

ข่าวที่เกี่ยวข้อง