วิบากกรรม “ลุงป้อม” และ พปชร.

การเมือง
25 ส.ค. 66
14:42
7,730
Logo Thai PBS
วิบากกรรม “ลุงป้อม” และ พปชร.
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
จนถึงวันศุกร์ที่ 25 ส.ค.66 จึงได้เห็นความเคลื่อนไหว “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เป็นครั้งแรก

หลังเร้นกายหายหน้าหายตาไป ตั้งแต่วันที่ 22 ส.ค. ซึ่งเป็นวันประชุมรัฐสภา นัดโหวตนายกรัฐมนตรี จากแคทดิเดตพรรคเพื่อไทย ที่ยังส่งชื่อนายเศรษฐา ทวีสิน อย่างที่แกนนำในพรรคหลายคนยืนยันมาแต่แรก

แม้นายเศรษฐาจะได้รับเสียงโหวตถล่มทลาย 482 เสียง ขยับขึ้นนั่งเก้าอี้รัฐมนตรีคนที่ 30 แบบสบายๆ แต่ความจริงแล้ว น่าจะได้เสียงโหวตมากกว่านี้อีก หาก สว.อีกส่วนหนึ่ง ไม่พร้อมอกพร้อมใจกันโหวตงดออกเสียงถึง 68 คน และมีไม่เห็นชอบเพียง 13 คน

เพราะ สว.ในกลุ่ม 68 เสียงที่งดออกเสียง ปรากฏว่าส่วนหนึ่งเป็น สว.ในสาย “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร นำโดยเพื่อน ตท.6 เกิดอาการลังเล และจบลงด้วยการงดออกเสียง เช่น พล.อ.บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ อดีตผบ.สูงสุด พล.อ.อู๊ด เบื้องบน อดีตปลัดกลาโหม

แต่บางคน เช่น พล.อ.นพดล อินทปัญญา เพื่อนเลิฟ อดีตหัวหน้านายทหารฝ่ายเสนาธิการประจำ รมว.กลาโหม พล.อ.เชษฐา ฐานะจาโร กลับโหวตหนุนนายเศรษฐา เพราะคนใกล้ชิดลงสมัครส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ส่วนน้องชาย บิ๊กป้อม พล.ร.อ.ศิษฐวัชร วงษ์สุวรรณ ไม่ได้ไปร่วมโหวต เช่นเดียวกับบิ๊กป้อม

ว่ากันว่า เป็นผลจากความคาดหวังและเชื่อว่า การส่งชื่อนายเศรษฐาของพรรคเพื่อไทย จะไม่ผ่านเสียงโหวตจาก สว.ในการประชุม วันที่ 22 ส.ค. เมื่อ สว.ตัวตึง 3-4 คน ยังคงตั้งป้อมแสดงท่าทีคลางแคลงใจในตัวนายเศรษฐา ที่โดนนายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ ออกโรง กระทุ้งจัดหนักเรื่องซื้อขายที่ดินบนถนนสารสินส่อนิติกรรมอําพราง ทำให้รัฐสูญเสียรายได้จากภาษี 521 ล้านบาท แม้เจ้าตัวจะปฏิเสธและตอบโต้ทุกข้อกล่าวหา

ก่อนจะขยายผลไปยังเรื่องเตรียมแก้รัฐธรรมนูญ โดยตั้ง ส.ส.ร.ทันทีในการประชุม ครม.นัดแรก หวังจะเพิ่มดีกรีจุดพลุความไม่น่าไว้วางใจ ไม่เพียงเท่านั้น ยังเปิดประเด็นพรรคเพื่อไทยปฏิบัติการลับลวงหลอก จะเปลี่ยนตัวแคนดิเดตนายกฯ ไม่ใช่นายเศรษฐา สร้างความสับสนอีกต่างหาก

ทั้งนี้ อาจดีดลูกคิดรางแก้วแล้วว่า มีน้ำหนักมากพอ ที่นายเศรษฐาจะไม่ผ่านด่าน สว.ทำให้ความหวังการส่งไม้ต่อให้พรรคอันดับ 3 และถึงพรรคอันดับ 4 จะเป็นจริงได้ แต่เผอิญว่าการเจรจาระหว่าง พรรคเพื่อไทยกับรวมไทยสร้างชาติ ตกลงกันลงตัวได้

หลังการอภิปรายข้อสงสัยในตัวนายเศรษฐา เมื่อวันที่ 22 ส.ค. เริ่มไปได้แค่ 3-4 คน ผู้อภิปรายคิวต่อ ๆ มา จึงกลับกลายเป็นการสนับสนุนปรองดองก้าวข้ามความขัดแย้ง พร้อมโหวตหนุนนายเศรษฐา และกลายเป็นที่มาของเสียง สว.ในสายบิ๊กตู่ และ ตท.12 เทคะแนนให้อย่างล้นหลามในที่สุด

ผลคือฝันนายเศรษฐาเป็นจริง แต่ฝันของบิ๊กป้อมล่มไม่เป็นท่า จึงส่งผลถึงการเจรจาตั้งรัฐบาลและการแบ่งเค้กให้พลังประชารัฐ ต้องเจองานยาก ข้อต่อรองการเจรจาที่คุยกันไว้ ต้องรื้อกลับมาพูดคุยกันใหม่

เสียทั้งเวลา เสียทั้งเก้าอี้กระทรวงสำคัญที่คาดหวัง อย่างด้านความมั่นคง กระทรวงกลาโหม ต้องหลุดมือ ไม่ได้แม้แต่ตำแหน่งรัฐมนตรีช่วย กลายเป็นกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มาแทนที่

ส่วนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ ที่ต้องการยกชั้นให้เลขาธิการพรรค ร.อ.ธรรมมนัส พรหมเผ่า ก็มีข่าวว่าจะวืดด้วย อาจได้เพียงรัฐมนตรีแรงงาน นายสันติ พร้อมพัฒน์ ก็ต้องพลอยลุ้นเหนื่อยไปด้วย

เป็นวิบากกรรมสำคัญของพรรคพลังประชารัฐโดยแท้

วิเคราะห์ : ประจักษ์ มะวงศ์สา

ข่าวที่เกี่ยวข้อง