บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2566 ประกาศผลรอบอุทธรณ์เพิ่มเติม เช็กเลย!

เศรษฐกิจ
7 ก.ย. 66
08:28
98,730
Logo Thai PBS
บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2566  ประกาศผลรอบอุทธรณ์เพิ่มเติม เช็กเลย!
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
ความคืบหน้าลงทะเบียน "บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2566" ประกาศผลการพิจารณาคุณสมบัติด้านอสังหาริมทรัพย์ รอบอุทธรณ์เพิ่มเติม ตรวจสอบได้ที่นี่

นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า หลังจากที่มีการประกาศผลการพิจารณาคุณสมบัติ บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2566 รอบอุทธรณ์ เมื่อวันที่ 12 มิ.ย.ที่ผ่านมา ต่อมากระทรวงการคลังได้ตรวจสอบ พบว่า ผลการพิจารณาคุณสมบัติด้านอสังหาริมทรัพย์ สำหรับรอบอุทธรณ์ยังไม่ครบถ้วน จึงได้ดำเนินการตรวจสอบความถูกต้องของคุณสมบัติด้านอสังหาริมทรัพย์อีกครั้ง

เมื่อวันที่ 17 ก.ค.2566 และวันที่ 28 ส.ค.2566 จึงได้มีการประกาศผลการพิจารณาคุณสมบัติของผู้ผ่านเกณฑ์กลุ่มดังกล่าวเพิ่มเติม โดยมีผู้ผ่านการพิจารณาคุณสมบัติรอบอุทธรณ์เพิ่มเติม จำนวน 1,830 คน และ 114 คน ตามลำดับ โดยผู้ที่ยื่นอุทธรณ์และดำเนินการแล้วเสร็จตามขั้นตอน ภายในวันที่ 1 พ.ค.2566 สามารถตรวจสอบผลการพิจารณาคุณสมบัติได้ 3 ช่องทาง ดังนี้

ตรวจสอบผลอุทธรณ์การลงทะเบียน 

  • ตรวจสอบผลการพิจารณาคุณสมบัติผ่านหน่วยงานรับลงทะเบียนทั้ง 7 หน่วยงาน ได้แก่ สาขาของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.), ธนาคารออมสิน, ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) (ธนาคารกรุงไทยฯ) สำนักงานคลังจังหวัดทั้ง 76 จังหวัดทั่วประเทศ ที่ว่าการอำเภอทั้ง 878 อำเภอทั่วประเทศ สำนักงานเขตกรุงเทพมหานคร ทั้ง 50 เขต และศาลาว่าการเมืองพัทยา
  • โทรศัพท์สอบถามได้ที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ สำนักงานปลัดกระทรวงการคลัง สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง และ Call Center โครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐในวันและเวลาทำการของแต่ละหน่วยงาน

ผู้ยื่นอุทธรณ์ผ่านการพิจารณาคุณสมบัติ ทำตามขั้นตอนต่อไปนี้

  • ผู้ผ่านการพิจารณาคุณสมบัติดำเนินการยืนยันตัวตนได้ที่ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) เท่านั้น โดยจะต้องนำบัตรประจำตัวประชาชนอเนกประสงค์ (Smart Card) เพื่อใช้ในการยืนยันตัวตนด้วย ซึ่งการให้บริการยืนยันตัวตนจะเป็นไปตามวันและเวลาทำการของธนาคาร
  • เมื่อยืนยันตัวตนเสร็จเรียบร้อยแล้วจะสามารถตรวจสอบสถานะการยืนยันตัวตนของตนเองผ่านทางเว็บไซต์ https:// บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ.mof.go.th หรือ https:// welfare.mof.go.th หรือติดต่อสอบถามเจ้าหน้าที่หน่วยงานรับลงทะเบียนทั้ง 7 หน่วยงาน หรือโทรศัพท์สอบถามได้ที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตามเวลาทำการของแต่ละหน่วยงานได้ในวันถัดไป
  • ผู้ผ่านเกณฑ์การพิจารณาคุณสมบัติดำเนินการผูกบัญชีพร้อมเพย์กับหมายเลขประจำตัวประชาชนเพื่อเป็นการเตรียมการรองรับการรับสิทธิสวัสดิการ โดยสามารถผูกบัญชีพร้อมเพย์กับธนาคารใดก็ได้ ทั้งนี้ การผูกบัญชีพร้อมเพย์ไว้ล่วงหน้า จะทำให้ผู้ได้รับสิทธิสามารถรับสิทธิสวัสดิการในกรณีที่ภาครัฐมีสวัสดิการที่จะโอนเข้าบัญชีในอนาคตได้อย่างสะดวกรวดเร็ว
  • ผู้ผ่านการพิจารณาคุณสมบัติรอบอุทธรณ์เพิ่มเติมทั้ง 2 รอบสามารถดำเนินการยืนยันตัวตนตามกรอบระยะเวลาที่กำหนดเพื่อเริ่มใช้สิทธิสวัสดิการแห่งรัฐตามที่กระทรวงการคลังกำหนด

รายละเอียดวันที่ยืนยันตัวตน วันเริ่มใช้และสิทธิย้อนหลัง ดังนี้

ผู้ผ่านการพิจารณาคุณสมบัติรอบอุทธรณ์เพิ่มเติมที่ประกาศผลเมื่อวันที่ 17 ก.ค.2566 และดำเนินการยืนยันตัวตนภายในวันที่ 26 ก.ค.2566 และตรวจสอบพบว่า ผ่านการยืนยันตัวตน (e-KYC) จะสามารถใช้สิทธิสวัสดิการผ่านบัตรประจำตัวประชาชนได้ตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค.2566

แต่หากผู้ผ่านการพิจารณาคุณสมบัติยืนยันตัวตนหลังวันที่ 26 ก.ค.2566 จะสามารถใช้สิทธิสวัสดิการแห่งรัฐตามที่กระทรวงการคลังกำหนด โดยมีรายละเอียดวันที่ยืนยันตัวตน วันเริ่มใช้สิทธิได้ และสิทธิที่ได้ย้อนหลังดังนี้

ผู้ผ่านการพิจารณาคุณสมบัติรอบอุทธรณ์เพิ่มเติมที่ประกาศผลเมื่อวันที่ 28 ส.ค.2566

และดำเนินการยืนยันตัวตนภายในวันที่ 28 ส.ค. – 26 ก.ย.2566 และตรวจสอบพบว่า ผ่านการยืนยันตัวตน (e-KYC) จะสามารถใช้สิทธิสวัสดิการผ่านบัตรประจำตัวประชาชนได้ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.2566

แต่หากผู้ผ่านการพิจารณาคุณสมบัติยืนยันตัวตนหลังวันที่ 26 ก.ย.2566 จะสามารถใช้สิทธิสวัสดิการแห่งรัฐตามที่กระทรวงการคลังกำหนด โดยมีรายละเอียดวันที่ยืนยันตัวตน วันเริ่มใช้สิทธิได้ และสิทธิที่ได้ย้อนหลังดังนี้

สำหรับวงเงินสิทธิสวัสดิการย้อนหลัง จะได้เฉพาะวงเงินในส่วนของการซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคจาก ร้านธงฟ้าราคาประหยัดพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่น และร้านอื่น ๆ ตามที่กระทรวงพาณิชย์กำหนด (ร้านธงฟ้าฯ) จำนวน 300 บาทต่อคนต่อเดือน เท่านั้น และกรณีมีวงเงินคงเหลือจะไม่มีการสะสมไปในเดือนถัดไป

ผู้ผ่านการพิจารณาคุณสมบัติที่ไม่สามารถดำเนินการยืนยันตัวตนได้ด้วยตนเอง ได้แก่ ผู้พิการ ผู้ป่วยติดเตียง หรือผู้สูงอายุที่ไม่สามารถเดินทางมายืนยันตัวตนได้ด้วยตนเอง สามารถมอบอำนาจให้บุคคลอื่นมายืนยันตัวตนแทนได้ โดยจะต้องใช้เอกสาร ดังต่อไปนี้

  • บัตรประจำตัวประชาชนผู้ผ่านเกณฑ์การพิจารณาคุณสมบัติ (ผู้ได้รับสิทธิ)
  • หนังสือมอบอำนาจการยืนยันตัวตน (สามารถดาวน์โหลดได้ที่เว็บไซต์ของโครงการฯ)
  • บัตรประจำตัวประชาชนผู้รับมอบอำนาจ
  • บัตรประจำตัวคนพิการ (ถ้ามี) หรือใบรับรองแพทย์ (ถ้ามี)
  • ใบสำคัญการหย่าหรือ ใบมรณบัตร หรือหนังสือรับรองการตาย หรือทะเบียนบ้านที่มีการจำหน่ายตาย(เฉพาะผู้ผ่านเกณฑ์แบบมีเงื่อนไขที่ได้ยื่นเอกสารหนังสือประกอบการพิจารณา กรณีผู้ลงทะเบียนไม่สามารถติดตามคู่สมรสมาเพื่อดำเนินการหย่าตามกฎหมายได้ แบบฟอร์มที่ 2)

ผู้ผ่านเกณฑ์ ยืนยันตัวตนสำเร็จ 13.8 ล้านคน

สำหรับความคืบหน้าการยืนยันตัวตนของผู้ที่ผ่านเกณฑ์การพิจารณาคุณสมบัติ (ผู้ผ่านเกณฑ์) ตามโครงการฯ ที่ดำเนินการยืนยันตัวตนแล้ว มีผู้ผ่านเกณฑ์ที่ยืนยันตัวตนสำเร็จ จำนวนทั้งสิ้น 13,809,073 คน หรือคิดเป็น ร้อยละ 91.80 ของจำนวนผู้ผ่านเกณฑ์ทั้งหมด (ข้อมูลวันที่ 4 ก.ย.2566) โดยผู้ผ่านเกณฑ์ที่ยังไม่ได้ดำเนินการยืนยันตัวตนยังคงสามารถยืนยันตัวตนได้ที่ธนาคารกรุงไทยฯ ตามวันและเวลาทำการของธนาคาร

ความคืบหน้าการใช้สิทธิภายใต้โครงการฯ ผ่านบัตรประจำตัวประชาชนของผู้ผ่านเกณฑ์การพิจารณาคุณสมบัติตามโครงการฯ ที่ยืนยันตัวตนสำเร็จภายในวันที่ 26 ส.ค.2566 (ผู้มีสิทธิฯ) โดยมีมูลค่าการใช้สิทธิสะสมตั้งแต่วันที่ 1 – 5 ก.ย. 2566 เวลา 12.00 น. จำนวนกว่า 2,929.10 ล้านบาท จากผู้มีสิทธิฯ จำนวนกว่า 9.8 ล้านคน

ส่วนใหญ่จะเป็นการใช้สิทธิในวงเงินค่าซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นจากร้านธงฟ้าฯ จำนวน 2,906.68 ล้านบาท วงเงินรวมค่าเดินทางผ่านระบบขนส่งสาธารณะ จำนวน 15.92 ล้านบาท และวงเงินส่วนลดค่าซื้อก๊าซหุงต้มจากร้านค้าตามที่กระทรวงพลังงานกำหนด จำนวน 6.5 ล้านบาท ตามลำดับ

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง