วันที่ 6 ก.ย.2566 นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิดผู้ถูกกล่าวหาคดีการกลับคำสั่งไม่ฟ้อง นายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือบอส ข้อหาขับรถยนต์ชน ด.ต.วิเชียร กลั่นประเสริฐ เสียชีวิตเมื่อปี 2555 โดยช่วยเหลือเปลี่ยนพยานหลักฐานด้านความเร็วของรถยนต์ เป็นทางการแล้วรวม 15 คน
ผู้ที่ถูกชี้มูลความผิดทางอาญา เช่น พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง เมื่อครั้งเป็นกรรมาธิการ ในคณะกรรมาธิการการกฎหมาย กระบวนการยุติธรรม และกิจการตำรวจ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ซึ่งได้ติดต่อนักวิชาการ เพื่อเปลี่ยนแปลงข้อมูลความเร็วของรถ
นายเนตร นาคสุข อดีตรองอัยการสูงสุด ผู้ออกคำสั่งไม่ฟ้องคดีนี้, นายชัยณรงค์ แสงทองอร่าม อดีตอัยการอาวุโส ถูกกล่าวหามีส่วนร่วมพิจารณาหลักฐานใหม่, นายพิชัย เลิศพงศ์อดิศร นายก อบจ.เชียงใหม่ ที่มีความใกล้ชิดกับพยาน, นายสายประสิทธิ์ เกิดนิยม นักวิชาการด้านวิศวกรรม กรณีให้ความเห็นความเร็วรถ รวมถึงพนักงานสอบสวนบางนาย
ส่วนนายธานี อ่อนละเอียด สมาชิกวุฒิสภา และอดีตเลขานุการคณะกรรมาธิการการกฎหมาย กระบวนการยุติธรรมและกิจการตำรวจ สนช. ถูกกล่าวหาเป็นผู้รับเรื่องร้องเรียนจากทนายความนายวรยุทธ์ ที่อ้างว่ามีพยานหลักฐานใหม่ และ พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รมว.ศึกษาธิการ โดยเมื่อครั้งเป็นอดีตผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ไม่มีความเห็นแย้ง หลังจากนายเนตร นาคสุข สั่งไม่ฟ้องข้อหาความเร็วรถ ซึ่งทั้ง 2 คน ที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช.เห็นควรส่งเรื่องให้ผู้บังคับบัญชา หรือผู้มีอำนาจแต่งตั้ง หรือถอดถอน ดำเนินการทางวินัย เนื่องจากไม่ใช่เป็นความผิดร้ายแรง
ส่วนขั้นตอนต่อไป จะส่งสำนวนไต่สวนเอกสารพยานหลักฐาน ให้อัยการสูงสูดดำเนินการฟ้องร้องต่อไป อย่างไรก็ตาม การชี้มูลความผิดครั้งนี้ ยังไม่ถือเป็นที่สุด ผู้ถูกกล่าวหาทั้งหมดมีสิทธิต่อสู้คดี เพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ในชั้นศาลได้อีก
สำหรับคดีนายวรยุทธ ปัจจุบันเหลือเพียง 1 คดี คือ ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย จะหมดอายุความในวันที่ 3 ก.ย.2570 ส่วนข้อหาอื่นได้หมดอายุความ และบางคดีถูกสั่งไม่ฟ้อง